วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

some day I will be better.

เหลือทำงานอีกวันสงกรานต์นี้ก็จะว่างแระ

ว่าแต่วันนี้มีประเด็นที่เพื่อนมากด like กันมากมาย

"อยากเปิด ห้องให้ป้าแกซักห้อง

เอ่อ..ถ้าป้ารู้ดีขนาดนี้ หมอรบกวนช่วยตรวจซักห้องได้มั้ยคะ
วันนี้พอดีคนเยอะอยู่เลยเนี่ย"



พยายามมองโลกในแง่ดี อยากเป็นผู้หญิงคิดบวก
อยากเป็นหมอที่ดีให้ได้ก่อนโลกแตก
เป็นกำลังใจให้เจ๊ด้วยนะ คุ๊กกี้...


After shock movie


เพิ่งดู After shock หลังจากได้แผ่นมาช่วงแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น

จากที่เคยอยากดูก็เลยไม่กล้าดู..วันนี้มีโอกาส เลยหยิบมาดู
ไม่สงสัยเลย หนังไม่มีอะไรเลย ..แต่ก็เรียกน้ำตาได้แหมะแหมะ หลายต่อหลายฉาก
เนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรักในครอบครัว ลูกที่คิดว่าแม่เลือกให้เธอตาย
...แม่ที่ไม่อาจให้อภัยตัวเอง กับเหตุการณืที่เกิดขึ้น...ดูแล้วไม่โทษใครเลยที่ทำแบบนั้น
ยังคิดเลยว่าถ้าเป็นเราล่ะ...-'-



10 เหตุผลที่ทำให้ Aftershock เป็น “ปรากฏการณ์”
เขียนโดย nooiy, เมื่อ August 30, 2010 at 15:02, ในหมวด ข่าวหนัง, ข่าวหนังเอเชีย. http://movie.mthai.com/movie-news/76411.html

1. Aftershock เป็นภาพยนตร์ไอแม็กซ์เรื่องแรกที่ทำนอกสหรัฐอเมริกา เป็นการผสานความร่วมมือ ของ บริษัท หัวอี้ บราเธอร์ส และ ไอแม็กซ์ (แต่ในประเทศไทยฉายด้วยระบบ 2.35:1 หรือจอสโคป)

2. ริชาร์ด เกลฟอนด์ ผู้บริหารของไอแม็กซ์ กล่าวถึงเหตุผลในการร่วมมือครั้งนี้ว่า “ใน สหรัฐอเมริกา ปัจจัยที่เราจะเลือกหนังมาทำเป็นหนังสำหรับโรงภาพยนตร์ไอแม็กซ์อยู่ที่ตัว ผู้กำกับ คุณจะเห็นแต่งานของผู้กำกับดังๆ อย่างเจมส์ คาเมรอน, คริสโตเฟอร์ โนแลน หรือ ทิม เบอร์ตัน เราทราบมาว่า เฝิงเสี่ยวกัง เป็นผู้กำกับชื่อดังของจีน และหนังทุกเรื่องของเขาก็เป็นหนังทำเงินนี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราถึงตัดสินใจร่วมงานกับบริษัท หัวอี้”


3. ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายด้วยจำนวนโรงที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศจีน คือ มากกว่า 4,000 โรง ใกล้เคียงกับภาพยนตร์เรื่อง Eclipse เมื่อตอนออกฉายที่อเมริกา คือ 4,146 โรง


4. เพียงแค่ Aftershock ไปฉายพรีวิวที่เมืองคานส์เพียงวันเดียวภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกซื้อไปฉายใน 7 ประเทศ


5. Aftershock สร้างมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจริงในเมืองถังซานซึ่งถือว่าเป็น เหตุธรณีพิบัติที่รุนแรงที่สุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์เท่าที่เคยมีการบันทึกมา (นับจากจำนวนยอดผู้เสียชีวิต) และเป็นโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา (รุนแรงกว่าที่เสฉวนและเฮติ)


6. ทุนสร้างส่วนหนึ่งมาจากเทศบาลเมืองถังซานและผู้กำกับเฝิงเสี่ยวกังได้ยกกอง ไปถ่ายทำ ณ สถานที่จริง โดยมีชาวบ้านที่เคยประสบเหตุการณ์จริงมาร่วมเข้าฉากเป็นตัวประกอบ “พวกเขาร้องไห้ออกมาจริงๆ ขณะถ่ายทำ เพราะนึกถึงบรรดาญาติพี่น้องที่จากไปในเหตุแผ่นดินไหวหนนั้น” ผู้กำกับเล่า


7. นี่เป็นการกลับมาร่วมงานอีกครั้งระหว่างนางเอกชื่อดังของจีน สูฟ่าน และ ผู้กำกับ เฝิงเสี่ยวกัง ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันเคยร่วมงานกันใน A World without Thieves โดยครั้งนี้สูฟ่านจะมารับบทนำใน Aftershock เป็นแม่ผู้ยังจมอยู่กับความรู้สึกผิดเมื่อตัดสินใจทิ้งลูกน้อยไว้ในเหตุแผ่นดินไหว


8. ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เฉินกั่วฟู่ กล่าวว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้พูดถึงพลังของอารมณ์ พลังของครอบครัว ไม่มีประเทศไหนในโลกเหมือนประเทศจีนอีกแล้ว พวกเรายึดถือความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของครอบครัวเป็นสำคัญ และเป็นแรงผลักในการดำเนินชีวิต”


9. Aftershock จะเล่าเรื่องราวชีวิตของเด็กหญิงคนหนึ่งตลอดช่วง 30 ปี หลังจากที่เจอเหตุแผ่นดินไหวที่ถังซาน จนมาจบลงที่เหตุแผ่นดินไหวที่เสฉวน (ในปี 2008) ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่พูดถึงเหตุแผ่นดินไหว 2 ครั้งในหนังเรื่องเดียวและยังท้าทายต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างสูง เนื่องจากญาติของผู้เสียชีวิตหลายคนในเสฉวนยังคงทำใจไม่ได้ต่อความสูญเสีย ที่ตนเองประสบ


10. ซีเควนซ์แรกของหนังซึ่งยาวประมาณ 20 นาที เป็นการเล่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ถังซานทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์บางส่วน กล่าวว่า ถ้าหากคุณไม่ช็อคเพราะภาพที่เห็นคุณก็ต้องร้องไห้ให้กับชะตากรรมของตัวละคร เป็นแน่ เพราะเป็นฉากที่บีบอารมณ์ที่สุดในรอบหลายปีมานี้


วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

รีวิว เชียงใหม่ ตอนแรก เที่ยวเชียงใหม่ ไปไหนดี??

...ก่อนอื่นต้องออกตัวว่าไม่เคยรีวิวมาก่อนเลย  แต่อยู่ดีดีก็เกิดนิมิต ...

จริงๆ แล้ว Plan ว่าปลายมีนานี้จะไปชมซากุระ ซ้ากกทีนึง...วางแผน ซื้อหนังสือนำเที่ยว ตลอดจน จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ติดต่อเพื่อนที่โน่น...โอ๊ะ โอ ญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวซะนี่  หนักซะด้วย โชคดีมากกที่เพื่อนสบายดี  แต่ก็สงสารญี่ปุ่นจัง  จะไปตอนนี้ก็คงไม่ใช่อารมณ์จิบชาชมซากุระนะ แถมถ้าไปนี่ยังจะต้องไปแย่งอาหารเค้าอีก...เลยตัดใจว่าไปเชียงใหม่ก้อเจ้า..

เริ่มวันแรก ออก เดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติ หาดใหญ่ เดี๋วนี้บินรวดเดียวถึงเชียงใหม่แร้น ก็สะดวกกันไปไม่ต้องต่อเครื่องให้เหนื่อยกันอีกต่อไป  ดีใจจัง ...แต่เนื่องจากระชั้นชิดค่าตั๋วก็เกินครึ่งหมื่นแระ  ...

วันที่ออกเดินทางอากาศเป็นใจจริงจิ๊งงง...ฝนตกหนักเชียว ฟ้าครึ้ม เมฆหนาทะมึน ...ก็ทำใจดีสู้นะ
โอ้ววว....ขาไปลมแรงมาก เครื่องตกหลุมอากาศแบบอย่างเยอะ  เยอะจนคิดว่านี่นั่งรถไฟเหาะอยู่รึเปล่านะ -'- ช็อตนั้นได้แต่มองหน้ากันแล้วก็ได้แต่ภาวนา

ชิชะ..สุดท้ายเราก็มาถึงเชียงใหม่จนได้  อิอิ แอบลุ้น...จากใต้ฝนตก  มาเจอแดดจ้าที่เชียงใหม่ ดีใจจัง
อ้อ  ..ใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงเท่านั้น

วันแรกเราจะพักกันแถวประตูท่าแพ  ที่ที่เลือกไว้คือ Mo room นั่นเอง
เป็นโรงแรมที่เป็น art  มาก  มีห้องทั้งหมด 12 ห้องด้วยกัน  
อันนี้เป็นภาพด้านหน้า



 ห้องที่เราเลือกเป็นห้อง Rooster   เพราะว่าดูน่ารักดี  จริงอยากพักห้อง Snake เหมือนกันนะ แต่มาช้าไปหน่อยมีคนสอยไปก่อนแระ


 เหมืนนอนในรังไก่เลย อิอิ







ยังไม่มีเวลามารีวิวต่อเลย
 มาแระ 08/2013



 บรรยากาสรอบๆโรงแรม จดได้น่ารักหลายมุมเลย
แต่สระว่ายน้ำค่อนข้างเล็กและตื้นมาก เหมาะกับนั่งแช่น้ำมากกว่า

หลังจาก ล้างหน้าล้างตา
เดินออกมาจากโรงแรมน่าจะ 300 เมตรก็จะถึงประตูท่าแพ




---คงต้องค้างรีวิวไว้แค่นี้....เพราะเจ้าขี้เกียจคำเดียว!!!
















อยู่ก็อยากทำ Blog

...วันนี้..อยู่ดีก็อยาก โพสต์รูปทริปที่เป็นประโยชน์แก่บ้านบ้าง ปกติเวลาไปเที่ยวก็จะไปหาข้อมูลในพันทิพย์ ห้อง blue planet ตัลหล้อด ตัลหร้อด...แต่ด้วยความอ่อนเดียงสาในเรื่อง IT เอามากๆๆ เลยทำไม่เป็นอ่านเงื่อนไขก็งงๆๆ เคยลองสมัครดูแล้วก้ Fail ตลอด!!

...ก็มาเจอเวบนี้  ทำบล็อกได้เอง ตามระดับสติปัญญาที่มีอยู่น้อยนิด...ลองดูกันสักตั้ง เอ้า..สู้ว้อยยย >.<