วันนี้ก่อนมาทำงานได้เปิดดูทีวี
ก็มาเจอหนังเรื่องหนึ่งเราน่าจะมาดูช่วงกลางๆเรื่องแล้ว
จับใจความได้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อที่คิดว่าจะมีพายุขนาดใหญ่พัดเข้ามา
จนต้องสร้างหลุมหลบภัยเพื่อความอยู่รอด แต่นั่น
ก็ทำให้เกิดปัญหาทางการเงินในครอบครัวที่ต้องเตรียมผ่าตัดลูกสาว
และต้องต่อสู้กับตนเองว่านี่คือสัญญาณเตือนจากธรรมชาติ หรือภาพหลอนจากจิตผิดปก
ตัวหนังบีบคั้นทำให้เราอยากทราบว่า ตกลงแล้วพายุมาจริงหรือไม่
แต่เหลืออีกไม่ถึง 20 นาที หลังจะจบ เราก็ต้องไปทำงานก่อน
วันนี้เลย...มาหาตอนที่เหลือดู...
ด้วยความที่ไม่รู้ชื่อหนัง จึงมาถามกู๋ด้วย สาม key words นี้
เคอร์ติส ลูกเป็นใบ้ พายุ
ประทับใจทีเดียวกับการเสนอมุมมองในแง่มุมนี้
In this apocalyptic drama, Boardwalk Empire star Michael Shannon plays a blue collar Ohio father who interprets his vivid nightmares of violent storms and downpours of oil as a sign that the end is nigh.
Single-mindedly, he sets out to save his uncomprehending wife (Jessica Chastain) and deaf daughter from the end of days by sprucing up his tornado shelter.
Director Jeff Nichols has fashioned a tense psychological tale that touches on America's paranoid terror of the unfamiliar.
DIRECTOR
Jeff Nichols
CAST
Michael Shannon
Jessica Chastain
Tova Stewart
Shea Whigham
Katy Mixon
บทวิจารณ์บางส่วนใน
ก่อนหน้าน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ในกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียง
ถ้ามีบ้านไหนตระเตรียมเก็บของขึ้นสูงหรือสร้างกำแพงกั้นน้ำหน้าบ้านเพื่อหลบภัยน้ำท่วมคงต้องถูกมองอย่างประหลาดจากเพื่อนบ้านรอบๆแน่ พร้อมอาจจะถูกมองว่าบ้าเข้าไปอีก เพราะน้ำท่วมแบบมิดคอคงไม่มีทางเกิดที่กรุงเทพฯหรือปริมณฑลเป็นแน่นอนในความคิดของคนส่วนใหญ่
Take Shelter คือภาพยนตร์ที่อาจไม่ได้มีเนื้อหาที่ใกล้เคียงกับมหาอุทกภัยดังกล่าวแต่ก็มีสิ่งที่คล้ายคลึงกันบางอย่าง เรื่องราวของการตระเตรียมกับภัยที่ยังไม่ได้เกิดโดยเฉพาะในดินแดนที่สงบสุขและไม่ได้มีภัยธรรมชาติใดๆมาเป็นเวลาเนิ่นนาน จนการเตรียมตัวเตรียมภัยที่ยังไม่ได้เกิดกลายเป็นเรื่องแปลกและไม่สามารถหาเหตุผลใดๆมาอธิบายได้
Take Shelter ภาพยนตร์ที่เปิดหน้าด้วยภาพของภัยธรรมชาติ
และสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าแห่งหายนะ แต่ขณะเดียวกันกับแฝงความนัยในเรื่องของครอบครัวได้อย่างมีชั้นเชิงโดยเฉพาะความหมายของผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว
หรือ “พ่อ” ภาพยนตร์โดย เจฟฟ์ นิโคลล์ ที่มีผลงานไม่มากนักในฐานะผู้อำนวยการสร้าง
แต่ Take Shelter ก็ทำให้เจฟฟ์ได้เครดิตไปมากทีเดียว
ทั้งนี้ต้องยกคำชมให้กับศูนย์กลางของเรื่องอย่าง ไมเคิล แชนนอน ที่รับบทเคอร์ติส หรือ “พ่อ”
ของครอบครัวที่แสนจะอบอุ่นก่อนจะเห็นภาพนิมิตแห่งหายนะ
โดยไมเคิล แชนนอน มีผลงานผ่านตามาหลายเรื่องแต่ก็รับบทไม่โดดเด่นมากนัก
จนมารับบทเจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้ตงฉินและอาสามาปราบคอรร์รัปชั่นในซีรี่ย์ชั้นดี
เรื่อง“Boardwalk Empire” ด้วยบุคลิกที่ดูจริงจังและเคร่งเครียด
บทพ่อใน Take Shelter ทำให้ผู้ชมเชื่อสนิทใจกับการบีบคั้นทางอารมณ์
ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เพราะแค่เหนหน้าไมเคิล
แชชน่อนในสภาวะปกติก็เครียดอยู่แล้วโดนไม่ต้องปั้นหน้าเพิ่มเติม
เรื่องราวของเคอติส ลาฟรอช (ไมเคิล แชนน่อน) ผู้นำของครอบครัวที่อบอุ่น
กับซาแมนท่า ภรรยา และลูกสาวที่มีปัญหาด้านการฟัง
เคอติสทำงานในบริษัทก่อสร้างมีเพื่อนร่วมงานที่เป็นทั้งเพื่อนสนิท
มีชีวิตที่เรียบง่ายในเมืองสงบตามชนบทแถบโอไฮโอ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีสิ่งผิดปกติ
.....จนวันหนึ่งเคอติสฝันเห็นพายุลูกใหญ่กำลังมา เป็นมหันตภัยที่ไม่เคยเกิด
และทุกครั้งที่เขาฝันจะมีเรื่องร้ายในฝันตามมา เช่น ถูกสุนัขที่เขาเลี้ยงเองกัด
เพื่อนรักทำร้าย ก่อนจะสะดุ้งตื่น พร้อมกับอาการที่เขาคิดว่าเหมือนจริงอย่างไม่น่าเชื่อ
รวมทั้งบางครั้งก็เห็นภาพแปลกๆบนท้องฟ้าในยามตื่น เช่น ฝูงนกขนาดใหญ่ที่แตกตื่น
ในขณะที่ไม่มีคนอื่นเห็นเลย จากความฝันและสิ่งปกติที่เขาพบเจอ
ทำให้เคอร์ติสมีความเชื่อว่ามันเป็นสัญญาณอันตรายบางอย่างที่บอกเขาล่วงหน้า
แต่ขณะเดียวกันเขาก็ไม่ปิดตัวเองจากสมมุติฐานที่ว่าเขาอาจจะผิดปกติทางจิตด้วย เมื่อประวัติของครอบครัวก็มีคุณแม่มีความผิดทางจิตอยู่เช่นกัน
ดังนั้นเคอร์ติสจึงเตรียมการรับมือกับภัยด้วยการสร้างหลุมหลบภัย
แต่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ชีวิตที่เคยสุขสบายทั้งครอบครัว
รวมทั้งลูกสาวที่จะมีโอกาสได้รับการรักษาจากปัญหาทางการฟังก็ต้อง
กับเผชิญปัญหาทางเงินครั้งใหญ่จนอาจจะเป็นอีกมหันตภัยนั่นก็คือปัญหาทางการเงิน
จนมาสู่ปัญหาครอบครัวของเคอติสเอง.
เริ่มจากนี้อาจจะเป็นการ spoil
ภาพยนตร์วางน้ำหนักของเรื่องให้ไม่ถูกเชื่อว่าผลสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร
]ระหว่างสัญชาตญาณของเคอติสเป็นจริง หรือจริงๆแล้วเขาเป็นบ้ากันแน่จนกว่าผู้ชมจะชมจบ
และนั่นก็ต้องชมทั้งเจฟฟ์ นิโคลล์ ผุ้อำนวยการสร้างและไมเคิล แชนน่อน
ที่ดึงอารมณ์คนดูจนเครียดตามไปกับสถานการณ์
แม้ภาพยนตร์จะดึงเป็นประเด็นมหันตภัยทางธรรมชาติออกมาสื่อให้เห็น
แต่เนื้อแท้แล้ว Take Shelter คือภาพยนตร์ดราม่าที่มุ่งเน้นครอบครัวเป็นหลัก
โดยเฉพาะบทบาทและหน้าที่ของ“พ่อ” เราจึงได้เห็นหน้าที่ของพ่อที่พร้อมจะปกป้องครอบครัวไม่ว่าภัยนั้นจะมาถึงหรือยังไม่มาก็ตาม และเราก็ได้เห็นว่าท้ายที่สุดพ่อก็ยอมรับได้
แม้ว่าอันตรายนั้นอาจจะเกิดจากสมาชิกในครอบครัวตัวเองก็ตาม
ทุกๆครั้งที่ฝันและเกิดสิ่งที่เกิดตามมาเช่น สุนัขที่เลี้ยงกัดเคอติส หรือเพื่อนรักทำร้าย เคอติสจะพยายามหาทางห่างจากสุนัขหรือเพื่อนรักด้วยการให้สุนัขให้พี่ชายเลี้ยงแทน
หรือบอกเจ้านายว่าเขาจะแยกทีมทำงานกับเพื่อน
แต่วันหนึ่งเมื่อในฝันบอกว่าคนที่จะทำร้ายคือภรรยาของเขาเอง
เคอติสก็ไม่เคยคิดที่จะแยกภรรยาออกจากห่างตัวเขาแม้ว่าเขาคิดว่าอันตรายจะเกิดกับเขาแน่ๆก็ตาม บางทีหลุมหลบภัยตามชื่อเรื่องและสิ่งที่เคอติสสร้าง
อาจจะเป็นเพียงสัญลักษณ์อยางหนึ่งที่แท้จริงแล้วภาพยนตร์ต้องการจะบอกว่า
หลุมหลบภัยที่สำคัญที่สุดเป็นกำบังภัยให้กับครอบครัวหาใช่หลุมหลบภัยที่เคอติสสร้างขึ้นไม่
ถ้า “แม่” คือผู้ฟูมฟักของครอบครัว หน้าที่กำบังของครอบครัว
...ก็คงเป็นใครไม่ได้นอกจาก “พ่อ” หรือเคอติสในเรื่องนั่นเอง
---------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น