ป้ายสี่เหลี่ยมที่ติดกระจกรถ มันเรียกว่าอะไร ใช่ พรบ?

สั่งซื้อ พรบ. แต่ทำไมไม่ได้รับป้ายวงกลม/ป้ายสี่เหลี่ยม ติดหน้ารถ

---

เรื่องนี้เกี่ยวกับ:   

---

             พ.ร.บ. เป็นประกันภัยภาคบังคับ เช่น สำหรับรถเก๋ง ราคา 645.21 บาท กระบะ 967.28 บาท ลักษณะเป็นกระดาษ A4 มีแถบสีเงิน (แถบโฮโลแกรม)

            ป้ายสี่เหลี่ยมติดหน้ารถ คือป้ายแสดงหลักฐานการต่อภาษีประจำปีกับขนส่งทางบก     เช่น รถเก๋งเล็ก ปีละ 1600 กว่าบาทโดยประมาณ ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับประเภทการจดทะเบียน จำนวนซีซี และอายุรถ และต้องใช้ พรบ. ประกอบการยื่นต่อภาษี และหากเกิน 7 ปีต้องมีใบตรวจสภาพรถเป็นหลักฐานเพิ่มอีกด้วย

           ดังนั้น ท่านที่ซื้อ พ.ร.บ. จะไม่ได้ป้ายสี่เหลี่ยมติดหน้ารถหรือติดกระจกรถ เพราะ พ.ร.บ. ไม่ได้มีลักษณะเป็นป้ายสี่เหลี่ยม ป้ายสี่เหลี่ยมนั้นคือภาษีประจำปี

ข้อแนะนำสำหรับท่านที่สะดวกดำเนินการออนไลน์ ท่านสามารถต่อพรบ.รถยนต์ กับ PrakunRod.com และนำเลข พรบ. ไปต่อภาษีออนไลน์กับเว็บกรมขนส่งได้ที่ https://www.dlte-serv.in.th/dltWeb/

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

http://www.prakunrod.com/ViewArticle.aspx?ArticleID=62

ความเป็นมาของป้าย

               ในอดีต รถทุกคันต้องเสียภาษีประจำปี และต้องติดป้ายภาษี ตอนนั้นจะเป็นวงกลม  ชาวบ้านจึงเรียกกันติดปากว่า ป้ายวงกลม

               หลังจากนั้นภาครัฐได้ออกกฎหมายชื่อว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  มาบังคับให้รถทุกคันต้องทำประกันภัย  เรียกกันสั้นๆว่า ทำประกันตามพรบ.  

               หลังจากนั้นย่อ มาเรียกแค่ว่า พรบ.  เมื่อทำแล้วต้องติดป้าย พรบ.ให้เจ้าหน้าที่เห็นด้วย ไม่ติดจะมีความผิดตามกฎหมาย   ยุคนั้นรถทุกคันจึงต้องติดป้าย พรบ.เพิ่มมาอีก 1 ใบ

 

                 หลังจากรถต้องติดป้ายภาษีหลายปี   ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต่างๆ ต้องติดป้ายที่กระจกเต็มไปหมด ติดท้ังป้ายภาษี ป้าย พรบ. ป้ายผ่านสถานที่ต่างๆ ป้ายจอดรถตามสถานที่ราชการต่างๆ ฯลฯ จนกระจกรถแทบจะไม่พอแล้ว   เขาจึงเริ่มคิดจะลดการติดป้ายที่กระจก  และคิดขึ้นมาได้ว่า ในเมื่อ กฎหมายบังคับว่า รถทุกคันต้อง ทำประกันภัยฯภาคบังคับ (พรบ.) จึงจะต่อทะเบียนได้      ดังนั้น รถที่ต่อทะเบียนแล้ว มีป้ายภาษีแล้ว แปลว่า ทำประกันภัยฯ แล้ว  ไม่ต้องเอาป้ายมาโชว์อีก    จึงได้ออกกฎว่าไม่ต้องติดป้าย ประกันภัยฯ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า พรบ. แล้ว    จึงลดป้ายที่ติดเกะกะกระจกรถออกไป 1 แผ่น

ปัจจุบันกฎหมายบังคับให้ติดแค่ป้ายภาษีเท่านั้น

 

ขอขอบคุณข้อมูล

http://pantip.com/topic/31342368 // คุณผีหัวดำ

ป้ายทะเบียนหาย ทำยังไงดี

 

วันนี้ขับรถทางไกลกลับมาทำงาน ชนน้องหมา โดยไม่ได้ตั้งใจ

ตอนนี้ดีที่มีสติ รีบชะลอความเร็วและ จับพวงมาลัยมั่น

น้องหมายิ่งยังวิ่งได้ ด้วยความที่รีบและเป็นช่วงเช้ามืด

เราจึงไม่ได้ลงมาดูรถ เพราะ คิดว่าคงยุบเล็กน้อย 

เพราะน้องหมาก็ยังวิ่งได้ดี ไม่เห็นรอยเลือด

ตอนนั้นลืมกังวลเรื่องรถไปจริงจริง

 

 

พอมาถึงที่ทำงานจอดรถ  พี่ยามก็มาทักว่าโดนอะไรมา รถยุบ

ตอนนั้นถึงได้เดินดูรอบๆ รถ โหรถยุบไปเยอะเลย กันชนหัก 

ที่สำคัญป้ายทะเบียนหล่นหาย อันนี้เราสะเพร่าเองไม่ยอมลงมาดูรถตอนนั้น

แต่ก็นึกปลอบใจตัวเองว่า ก็ยังเคราะห์ดีว่าปลอดภัยทั้งคนและหมา

คราวนี้ พอป้ายทะเบียนหาย เราก็สงสัยว่าต้องทำยังไง

จึงทำการสอบถามและรีวิวข้อมูล ได้ความอย่างนี้ 

อยากแบ่งปันเผื่อมีใครเจอกรณีคล้ายๆกัน ...

----

                       1.อย่างแรกโทรแจ้งประกัน แจ้งความเสียหาย

                       2.อย่าลืมตรวจเช็คหม้อน้ำ เพราะการชนมักเกิดที่กันชนหน้า ถ้าหม้อน้ำรั่ว หรือแตก  รถมีปัญหาตามมาแน่ๆ ยิ่งขับทางไกลด้วยแล้ว --- อันนี้ของเรามีปัญหาหม้อน้ำแตก โชคดีมากเพราะจากที่เกิดเหตุกับที่ทำงานร้อยกว่ากิโลเมตร

                      3. ไปแจ้งความค่ะ หลักฐานที่ต้องนำไปด้วย สมุดเล่มทะเบียนรถ บัตรประชาชน ต้องเตรียมรายละเอียด วันเวลาที่เกิดเหตุ รวมถึงเลขทะเบียนรถซึ่งน่าจะมีในเล่มทะเบียนอยู่แล้ว ..ค่าธรรมเนียม 20 บาทค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็น สถานีที่เกิดเหตุนะคะ

                      4.เมื่อได้ใบแจ้งความมาแล้วควรถ่ายเอกสารติดรถไว้หนึ่งชุดค่ะ เผื่อโดนเรียกเปรียบเทียบปรับ ก็เอาใบนี้แหละโชว์ที่ ตำรวจเค้า ซึ่งตามหลักแล้วใบนี้ใช้แสดงได้ไม่เกิน 15 วัน ต้องมีใบแจ้งขอป้ายทะเบียนมาโชว์ถ้าโดนเรียกค่ะ --- เราเกิดเหตุช่วงสงกรานต์พอดี แหม่ ..ทักทายกันราวกับคนสำคัญ เกือบทุกด่านเลยค่ะ

                      5.ขอป้ายทะเบียนใหม่ ตามกำหนดกฏหมายแล้ว ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันแจ้งความเราต้องแจ้งขอป้ายทะเบียนใหม่ มีสองกรณีค่ะ

                       5.1 ถ้ารถติดไฟแนนซ์ นี่ติดต่อทางไฟแนนซ์ไปเลย เรารอเสียค่าธรรมเดียวอย่างเดียว

                       5.2 กรณีเราเป็นเจ้าของรถ ปลดหนี้เรียบร้อยแร้น ...สามารถติดต่อได้เองที่สำนักงานขนส่งจังหวัด

****ในกรณีไปทำเองนั้นให้เตรียมเอกสารต่อไปนี้ไปด้วย คือ

        1.สำเนาเบัตรประชาชน (เจ้าของรถ) + ผู้รับมอบอำนาจ(ถ้ามี)

        2.สำเนาทะเบียนบ้าน (เจ้าของรถ)

        3.สมุดทะเบียนประจำรถ (ตัวจริง)

        4.ใบมอบอำนาจ (กรณีรับมอบอำนาจ)

***อย่าทำป้ายปลอม มีคนจำนวนไม่น้อยมักจะหาทางเลี่ยงโดยการทำป้ายปลอมเพื่อใช้งาน ซึ่งเข้าข่ายปลอมแปลงเอกสารราชการ มีโทษค่อนข้างรุนแรงทั้งปรับตั้งแต่ 1000-10000 บาท และจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน - 5 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ยังไงก็คิดให้ดีก่อน หรือใครเก็บป้ายได้นำไปสวมก็ผิดตามข้อนี้เช่นกัน

 

***ของเราใช้เวลารอป้ายประมาณ 1 เดือนค่ะ ตอนนี้ได้ป้ายมาแล้ว

****Trick เล็ก -- ป้ายหน้าเราหาย ทางศูนย์ เลยเอาป้ายหลังไปใส่ข้างหน้าแทน คราวนี้ป้ายที่ว่างก็กลายเป็นด้านหลังค่ะ

ที่มาข้อมูล

คอลัมน์คาร์ทิป หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2554

http://auto.sanook.com/3109/

ป้องกันขโมยรถ

Solex ... อุปกรณ์ป้องกันขโมยรถ

http://solexclicklock.com/solex-wheel-lock/

น้อง Sylphy เช็คระยะ 20000 กม.

http://www.thaisylphyclub.com/index.php?topic=4752.0
*สิงที่ศูนย์จะนำเสนอ ให้ (ผมมองว่ามันยังไม่ถึงเวลา) มีดังนี้

-น้ำยาล้างเครื่องยนต์ ราคา 650 บาท *เอาไว้ซัก 30,000 โล หรือมากกว่า เพราะรถยังใหม่
-ล้างแอร์ ราคา 2,250 บาท *ปกติ ล้างกันตอน 40,000 โล

(สองรายการนี้ คิดให้ดีครับ อย่าไปตอบตกลงอะไร โดยไม่พิจารณาถึงความเหมาะสมครับ) ทั้งหมดผมเลยไม่รับบริการนี้ ครับ เอาตามที่จำเป็น ยัง 3,000 UP 

ผู้หญิง กับ การดูแลรถ

เฮ้อ... ช่างฟังดูยาก

ตั้งแต่ตอนเลือกซื้อแล้ว ตอนนี้ได้มาครอบครอง ก็ต้องดูแลกันต่อไป เอ้า

หาข้อมูลด่วน

อย่าให้ใครมาปรามาส ได้ว่า ขับเป็นอย่างเดียว

-เริ่มที่ยางรถก่อนเลย  ควรหมั่นเติมลมยางให้พอดีอยู่เสมอ

เพราะนอกจากจะเป็นการถนอมอายุการใช้งานของยางรถยนต์แล้ว

ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากยางได้จร้า

ถามช่างกี่ทีกี่ทีเค้าก็บอกว่าควรเติมสัปดาห์ละครั้ง  

แต่นะส่วนตัวก็ประมาณ 3-4 สัปดาห์ครั้งค่ะ

เป็นสาวๆ อาจจะดูเองไม่เป็นเติมยากก็ตอนล้างรถก็ได้ค่ะ ย้ำว่า เติมลมยางให้ด้วยนคะ

หรือถ้า advance หน่อย ก็ตามปั๊มค่ะ 

เดี่ยวนี้หัวเติมจะเป็นแบบดิจิทัลแค่กดจำนวน เครื่องก็จะเติมตามที่เรากด

ส่วนถามว่าแล้วเติมเท่าไหร่ล่ะ

ส่วนมากรถทั่วไปก็จะมีบอกไว้ ที่ประตูฝั่งคนขับค่ะ

--ครั้งสุดท้ายที่เพื่อนๆ ทำความสะอาดไส้กรองอากาศคือเมื่อไหร่คะ?? 

เพราะหากปล่อให้ไส้กรองอากาศตัน 

จะทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมันมากขึ้นร้อยละ 10 เลยล่ะค่ะ 

ฉะนั้นจึงควรทำความสะอาดไส้กรองอากาศทุกๆ 2-4 สัปดาห์ 

หรือทุกๆ 2,500 กิโลเมตรเพื่อยืดอายุการใช้งานและการประหยัดน้ำมันค่ะ

ค่อยๆ ทยอยมาลงละกันนะคะ เพิ่งมีรถเป็นของตัวเอง

ก็ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ

ซื่้อกล้องติดหน้ารถกัน

ซื้อกล้อง..ติดหน้ารถ
ลองรีวิวดูแล้วมีแต่คนแนะนำว่าอย่าซื้อของจีน แนะนำของเกาหลี
วันนี้ลองดูๆ แล้วสนใจรุ่นนี้
อันแรก

2490
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=NwO6IxR_4YY

กล้องติดรถยนต์คุณภาพสูง จากเกาหลี Car DVR 
นำเข้า กล้องติดรถยนต์ ที่คนเกาหลีให้การยอมรับ มากที่สุด Provia P200 
ราคา 2490บาท พร้อมส่ง เท่านั้น ถูกมาก ลืมได้เลย กล้องไร้คุณภาพ จากจีน อันนี้ของเกาหลีแท้ๆ นำเข้ามาเองครับ มีรับประกัน จากเกาหลี ให้ 1 ปีเต็มครับ

http://www.priceza.com/r/redirect?id=1146386
คุณสมบัติ 

1. Automatically recording after car start, automatically turn off after car stop
ทำการบันทึกเหตุการณ์อัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถยนต์ หยุดบันทึกและปิดเครื่องเมื่อดับรถยนต์ไปแล้ว 5-10 วินาที โดยอาศัยไฟจากแบตเตอรี่ในตัวกล้อง
2. Wide angle len
เลนส์มุมกว้าง สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้กว้างกว่าเลนส์ปกติ กล้องราคาถูกบางตัวได้มุมกว้างก็จริง แต่สัดส่วนภาพจะผิดเพี้ยน รูปทรงบิดเบี้ยวและโค้งงอไปเยอะ3. บันทึกเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด โดยเมื่อหน่วยความจำเต็ม กล้องก็จะทำการลบไฟล์ที่เก่าที่สุดออกไปเพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอต่อการบันทึกเหตุการณ์
3. Cycle recording (overwrite first file if memory is full)
บันทึกเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด โดยเมื่อหน่วยความจำเต็ม กล้องก็จะทำการลบไฟล์ที่เก่าที่สุดออกไปเพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอต่อการบันทึกเหตุการณ์
4 .Motion detection
กล้องบางรุ่นมีความสามารถบันทึก "ความเคลื่อนไหว" เมื่อกล้องตรวจพบควาเคลื่นไหวในขณะที่เราจอดรถทิ้งเอาไว้ได้ ซึ่งจะบันทึกที่ frame rate ต่ำๆ เช่น 5 fps เพื่อไม่ให้เเปลืองหน่วยความจำมากครับ โดยอาจใช้ไฟจากแบตเตอรี่ในตัวกล้อง หรือใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อใช้ไฟโดยตรงจากแบตเตอรี่รถยนต์ โดยอุปกรณ์เสริมที่ว่านี้จะตัดไฟเมื่อไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์เมื่อต่ำกว่าระดับที่เรากำหนดไว้ได้ เพื่อป้องกันแบตเตอรี่หมดนั่นเอง บอกได้เลยครับว่าอุปกรณ์เสริมที่ว่านี้มันแพงครับ
5. G-sensor
เซ็นเซอร์วัดแรง G เมื่อเกิดแรง G อย่างรุนแรง เช่น เบรคกระทันหัน เกิดการชนขึ้น กล้องจะทำการป้องกันไม่ให้ไฟล์ที่กำลังบันทึกอยู่ถูกเขียนทับ โดยไฟล์ที่ถูกการบันทึกโดยวิธีนี้ จะดึงช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุการณ์ (Pre-recording) มารวมเอาไว้อยู่ในไฟล์ ยกตัวอย่างเช่น เกิดการชนกันเมื่อเวลา 15:00:00 น. กล้องจะบันทึกไฟล์นี้เอาไว้ตั้งแต่ 14:59:30 เป็นต้นไป (เวลาที่ถูก Pre-recording ขึ้นอยู่กับกล้องแต่ละตัว) เพื่อที่เมื่อเราเปิดไฟล์ขึ้นมาดู จะได้รู้ว่าสาเหตุนั้นเกิดจากอะไรครับ

มีรีวิวจากผุ้ใช้ด้วย

ตัวผมเองอยากได้กล้องติดรถยนต์ที่ขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องมีหน้าจอแสดงผล 
และราคาไม่แพงมากนัก เอาไว้บันทึกเหตุการณ์เผื่อต้องใช้ในยามจำเป็น 
แต่เอาเข้าจริงๆ นี่ก็เป็นตัวที่ 3 แล้ว เอาเงินมารวมกันซื้อยี่ห้อดีๆ ได้ 1
ตัวเลย เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายจริงๆ



2 ตัวก่อนไม่น่าประทับใจเพียงพอต่อการรีวิวและการใช้งานสักเท่าใดนัก 
จนมาถึงตัวนี้ที่คิดว่าดีเพียงพอที่จะให้เพื่อนๆ อ่านกันในวันนี้ครับ

- ขนาดเล็ก กระทัดรัด

- ไฟล์มีขนาดเล็ก microSD 16GB อัดวิดีโอได้ประมาณ 16 ชม.

- Seamless recording ไม่มีหล่นหายไปไหน

แนะนำตัว

ผมเลือกใช้กล้อง Provia รุ่น P200 Season2 จากเกาหลี มีคุณสมบัติคร่าวๆ ดังนี้

- 2.0M pixels, 1/3" CMOS

- เลนส์มุมกว้าง 120 องศา

- บันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 720x480 (D1), MPEG4

- บันทึกเสียง AAC

- 13 เฟรม/วินาที

- G Sensor

- Seamless recording (มารู้ตอนใช้งานจริง)

ตัวที่สอง
http://www.priceza.com/r/redirect?id=1146384

ได้รับรางวัล TV Shopping Best Products และ  Seoul city Best Brand

ระบบการบันทึกภาพ
- High class Definition Code  H.264
- สามารถดูไฟล์ video แสงผลบนมือถือของท่าน
- มีระบบตรวจจัดความเคลื่อนไหว เมื่อจอดรถทิ้งไว้
เชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าได้ เราคือ Pittasoft บริษัทเราจำหน่ายอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยระดับ Hi-Class


คุณสมบัติกล้องติดรถยนต์ Blackvue DR350
- High Qulity video
- บันทึกได้ยาวนาน
- โหมด parking บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ขณะจอดรถทิ้งไว้
- มีระบบเสียงแนะนำการทำงาน
- Spinning Design หมุนกล้องได้ 360 องศา
- รองรับเมมโมรี่ถึง 16g
- ภาพ Wide screen
- G-Sensor บันทึกภาพอัติโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- บันทึกเสียง
- มี AV-Out ต่อเข้าจอมอนิเตอร์ได้ทันที
- รองรับโปรแกรมmedia มากมาย
- ไฟล์ video สามารถดูผ่านมือถือได้


มีรางวัลมากมาย

ทุกเวลาถ้าคุณอยากดูไฟล์ที่ถูกบันทึกไว้สามารถดูผ่านมือถือ หรือ Navigator

วิธีดูผ่านมือถือ
ถอดเมมโมรี่ออกจากตัวกล้องติดรถยนต์ และนำไปใส่ที่ Card Reader และเสียบเข้ามือถือ
สามารถดูได้ทันที มือถือของท่านควรรองรับการอ่านไฟล์ MP4 
ระบบ Motion Detaction Parking Mode (ตรวจจับการเคลื่อนไวและบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ขณะจอดรถทิ้งไว้)

การดูการทำงานกันของโหมดการขับรถยนต์ปกติ เมื่อ Start เครื่องกล้องบันทึกภาพอัติโนมัติ เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือการกระแทกแรงๆ
ระบบ G-Sensor เริ่มทำงานภาพจะถูกเก็บไว้อีก Folder นึงเพื่อความปลอดภัย

เมื่อจอดรถยนต์ทิ้งไว้ กล้องจะเปลี่ยนเป็นโหมดตรวจจับความเคลื่อนไหวบันทึกเหตุการณ์เมื่อท่านไม่อยู่ (ต้องต่อกล้องติดรถยนต์เข้ากับแบตเตอรี่รถยนต์)


สามารถติดได้ที่หน้ารถ หรือ หลังรถ ตัวกล้องติดรถยนต์สามารถหมุนได้ 360 องศา

G-sensor ทำงานเมื่อเกิดการกระแทก
เมื่อเกิดการกระแทก Led จะเปลี่ยนเป็นสีแดง และบันทึกไฟล์ลง Folder event ทันที เพื่อเก็บรักษาไฟล์ที่สำคัญเพื่อท่าน
สามารถปรับแต่งแรงกระแทกได้ตามต้องการ

ข้อควรระวัง
- ห้ามแกะแยากส่วนตัวกล้องติดรถยนต์
- ห้ามโดนน้ำ
- ห้ามใช้สารเคมีกับตัวกล้อง
- ห้มทำหล่นกระแทก
- ห้ามจับเวลาขับรถยนต์อยู่
- Format เมมโมรี่อาทิตย์ละเครื่อง เพื่อความเสถียร


ตัวที่สาม
3790
http://www.priceza.com/r/redirect?id=1146723


ตัวที่สี่
http://www.priceza.com/r/redirect?id=1637216


3990 ---Lucas


ตัวที่ห้า
http://www.priceza.com/r/redirect?id=1146388
2460
มีระบบต่างๆ มากมาย
Motion Detect ตรวจจับความเคลื่อนไหว
Play in Smart Phone ดูภาพที่บันึกผ่านมือถือได้
Parking mode auto change เปลี่ยนเป็นโหมดบันทึกภาพขณะจอดรถทิ้งไว้อัติโนมัติ
Format itself ลบไฟล์อัติโนมัติเมื่อไฟล์เต็ม
Shock Sensor บันทึกภาพอัติโนมิตเมื่อมีการกระแทก
All time recording บันทึกภาพตลอดเวลา
Voice Recording บันทึกเสียงคุณภาพสูง


เราไม่ต้องไปปรับอะไรทั้งนั้นระบบทำงานอัติโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น
เมื่อไม่มีอะไรเคลื่อนไหวผ่านเซ็นเซอร์ของตัวกล้องนาน 20 oาที ระบบจัดเปลี่ยนโหมด Parking อัติโนมัติ
และเมื่อเริ่มเดินรถ กล้องเปลี่ยนโหมดเป็น Driving Mode ด้วยตัวเอง ระบบอัศจรรย์


ไฟล์ภาพของระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวจะเซฟแยกไว้ที่โฟลเดอร์ Parking Folder

โดยระบบทั้งหมด ที่กล่าวไว้นั้นช่วยท่านประหยัดไฟแบตเตอรี่รถยนต์ของท่าน และ ในส่วนของเมมโมรี่ด้วย

คุณสามารถดูไฟล์ video ที่บัทึกไว้ผ่านมือถือที่รองรับไฟล์ Mp4

กล้องติดรถยนต์จากประเทศเกาหลี 100% ทน ทึก เสถียร ลืมไปได้เลยกล้องติดรถยนต์คุณภาพต่ำจากจีน

สามารถ format memory ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
กดปุ่ม event ค้าง 5 วินาที ไฟล์ในSD Card จะถูกลบทิ้งทั้งหมด

เมื่อ เมมโมรี่แฮ้งเปลี่ยนกดฟั่งชั่นนั้นจบ

โหมดการทำงาน Record all time 
Shock เมื่อเกิดอุบัติเหตุกล้องจะเซฟไฟล์ลง Folder อัติโนมัติ
Parking Motion Mode
Voice Recorder

ความยาวในการบันทึก
Micro SD 4G สามรถบันทึกได้ 3 ชม. 20 นาที
Micro SD 8G สามรถบันทึกได้ 6 ชม. 40 นาที
Micro SD 16G สามรถบันทึกได้ 13 ชม. 20 นาที
Micro SD 32G สามรถบันทึกได้ 26 ชม. 40 นาที


ตัวที่หก
Lukas lk-3900g HD กล้องติดรถยนต์ คุณภาพสูง มีระบบบันทึกเส้นทางด้วย GPS
http://www.priceza.com/r/redirect?id=1232364
Model Name : LK-3900G HD
    Camera channel : 1ch
    Car blackbox GPS  Module 
    GPS Module : Y (SiRF Star III internal) 
    Camera lens : 1.3M Pixels CMOS Digital Sensor
    Camera angle : 132°
    Sensitivity : 1 Lux / F 1.88 
    HD 1280x720p / 16:9 Wide
    Temperature Spec : -20°C ~ 70°C
    Voice record : Y
    English User Configuration supported
    Google Map : mapping on Internet
    Automatic Parking / Driving Mode
    Video Format : MPEG4
    Video out put Support : V-out port for external Display
    High-capacity back-up battery
    SD card Memoy : 8gb, 16gb, 32gb SD/SDHC
    Certification : ISO/TS 16949
                            CE
                            FCC
                            Q-Mark
                            KCC
    Power : DC 8V~24V
    Dimension : 96 x 70 x 36 (mm)
    Weight : 106g
------------------------------------------------------------------------------------------------------------


http://www.priceza.com/r/redirect?id=1146384

http://www.gps4car.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539365511
http://www.club4g.com/index.php?topic=312929.0

http://www.groovygang.net/in-car-stereo/car-dvr/36.html

เห็นคุณ  gdhsatanic ถามมาใน PM ผมยังไม่ไ่ด้ใช้เลยครับหาอยู่เหมือนกัน แต่ผมอยากได้ที่คุณภาพดีจริงๆ ลองหาดูแล้วคงจบที่ตัวนี้ครับของเกาหลี ผมไม่อยากใช้ของจีนเลยให้ตายสิคุณภาพมันค่อนข้างแย่ พอดีพี่อยู่เกาหลีเลยจะฝากซื้อครับ ของ LUKAS ครับ ราคาสูงกว่าของจีนพอสมควรแต่คุณภาพดีกว่าเยอะมาก

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=Kck-4FH4Ip4#!

กล้อง lucas ดีมากครับ คุณภาพเกือบเท่า go proเลย แต่ถูกกว่าเกินครึ่ง อย่าไปซื้อของจีนเลยถูกกว่าแต่ห่วยจริง

LUKAS  เห็นวนเวปแวปๆ 6500ครับ

ผมถือว่าโอเคนะครับ ระยะเห็นเลขทะเบียนชัดเจนไม่เกิน10เมตร รถผมก็จอดตากแดดเกือบทั้งวัน แต่ติดฟิล์มหน้า50%  หาเมมฯที่ดีหน่อย King หรือ San

http://www.wellform.co.th/ft_dr_zero.html

http://www.xn--12cm3bdbfqf4fdfu8hyctb2ze8d.com/

http://gadgetviva.weloveshopping.com/store/product/view/HD_DVR_%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96-23210017-th.html

http://www.fortuner-club.com/index.php?topic=36455.0

http://www.gp4bkk.com/product.detail_0_th_3968539

http://world.kapook.com/pin/5077e1e038217ab47c000005

http://www.gp4bkk.com/product.detail_0_th_3968539

http://gadgetviva.weloveshopping.com/store/product/view/HD_DVR_%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96-23210017-th.html

http://www.club4g.com/index.php?topic=312929.0

http://www.gun.in.th/2012/index.php?topic=90898.0

ภูเก็ต
http://www.phuketoutdoorshooting.com/board/index.php?topic=11678.0

http://www.priceza.com/search?category=0&page=2&sort=1&productdataname=%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C

http://www.idealinthai.com/deals/productandservice-camera-car-080356

http://www.dealfish.co.th/product-1324880/

ของเกาหลี
http://www.priceza.com/search?category=0&page=2&sort=1&productdataname=%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C

http://www.monzyshop.com/store/

http://www.priceza.com/r/redirect?id=1146384

จักรยานพับได้ สักคัน มั๊ยคะ

มีคนอยากได้เหมือนกันเลย  เลยขอเก็บข้อมูลหน่อยค่ะ
http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2011/04/V10472830/V10472830.html

ผมก็ใช้ trek 8500 อยู่ 1 คัน มองเจ้ารถพับอีกคันยังตัดสินใจไม่ได้ระหว่าง dahon speed p8 กับเจ้า java fit ราคา 15,000 กับ 13,000ลอง serach ใน google = รถพับ ได้ข้อมูลแน่นอนครับ

เจ้าตัวนี้พับง่ายดี  แต่ล้อเล้กไปหน่อยมั๊ยน้า

ถ้าไม่เน้นปั่นเร็ว หรือปั่นไกล แนะนำ Strida ครับ พับได้เร็วที่สุดในบรรดารถพับ

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=oWBl58EDXnM#!

ถ้ารถพับ Dahon น่าจะดังสุดครับ ผมลองดูแล้วเค้ามีดีที่ กลไกการพับ พับแล้วเล็กกะทัดรัด ไม่เกะกะ ยังไงลองดูรุ่น Speed P8 / Mu P8 ดูครับน่าจะเหมาะ Java Fit ตามข้างบนก็เท่ไม่หยอกแต่ยางติดรถมันเป็นยางสลิคไม่รู้ว่าเส้นทางปั่นไปทำงานเป็นอย่างไร อาจจะต้องมีเปลี่ยนกันอีกรึเปล่า อีกยี่ห้อนึงคือ Pearless ครับ ผมว่ามันสวยดูถึกๆดีด้วย

สูงขนาดนี้ และเน้นพับด้วย  ไปลอง Dahon Mu P8 ดูครับ เบาเนื่องจากเฟรมเป็นอลู แต่ถ้าหนักขี้นมาอีกนิด Dahon Speed P8 จะขี่นุ่มกว่าเพราะเป็นโครโมลี่ 4230

พิมพ์ผิดครับ โคโมลี่ เบอร์ 4130

ที่ผมเคยใช้ก็มี Dahon curve D3 กับ Strida ครับผม

ดาฮอน แบรนด์ดังครับ ในงบเท่ากันหากเทียบกบยี่ห้ออื่น ดาฮอนจะให้อะไหล่ที่ต่ำกว่า สำหรับจาว่าฟิต ถ้าจะเล่นขอเตือนเรื่องเรมร้าวครับ เพราะเพื่อนถ่ายรูปมาให้ดูว่ามันร้าว เจอมาแล้ว3คันในกลุ่ม

10 ถ้ามือใหม่แนะนำ yeah by dahon หรือ oyama - เชฟโลเล็ต ก็ได้ครับ ต้องดูงบคุณด้วยละหรือดาฮอนรุ่นต่ำๆเช่นดาฮอนดรีม จาวาฟิตก็เจอปัญหาเฟรมร้าวกับเพื่อนผมเหมือนกัน(แต่มันหนักแค่60นะ) แต่ถ้าแบบงบเเรงตังเยอะก็เล่น ดาฮอนตัวท็อปเช่นดาฮอนmup8  รถพับยี่ห้อฟลามิงโก้ รถพับยี่ห้อbirdy หรือรถพับยี่ห้อbromton นะครับ

เริ่มต้นจากงบเลยครับ ถ้าขึ้นรถเมล์ด้วย ผมเกรงว่าพวก ล้อ 20 นิ้วจะแบกไม่ไหวเกะกะเอา ส่วนที่เป็นแบบมีโซ่ ก็เปื้อนอีก เหลือตัวเลือกไม่กี่ตัว ก็เป็นเจ้า strida อย่างที่ลุงเต่าแนะนำ แต่ถ้ารู้ราคาแล้วจะหนาว จักรยานอะไรคันเกือบ สองหมื่น แต่ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องราคา หามาก็ได้ครับ ผมยังอยากได้เลย แต่เอามานี่มีเรื่องกับที่บ้านแน่เลย อิอิ

ถ้าเอาระดับเริ่มต้นใช้งาน + ความทนทาน ต้องมีงบประมาณ 5-6 พัน Yeah ก็เป็นตัวเลอกที่ดีตัวหนึ่งราคาเริ่มต้นประมาณ หกพันบาท สำหรับรถพับระดับราคาสามพันกว่าไม่แนะนำ เพราะความทนทานไม่ค่อยมี ใช้ไปสักระยะ บรรดาจุดหมุน + สลักล็อคต่าง ๆ จะเริ่มออกอาการอ๊อดแอ๊ด ครับ

ถ้าขี่ไม่เร็วและใช้ในเมืองเป็นหลัก ผมแนะนำstridaอีกเสียงครับ งบประมาณ15,000-18,000 รูปร่างน่ารักดี,พับเก็บสะดวกด้วยครับ ผมใช้มา2ปีแล้วครับ...ชอบมาก บางครั้งพ่อตาผมยังแอบเอาไปขี่อวดสาวๆเลยครับ...อิอิอิ

Dahon ผมเคยขี่ของเพื่อนแค่แป๊บเดียว ส่วน Java Fit ผมมีอยู่ครับ  ขอวิจารณ์ตรง ๆ เลยละกันครับ... การพับ...ไม่ค่อยดีเท่าไหร่  พับแล้วต้องเอาเชือกมารัดหลักอานกับแฮนด์ไว้อีกที  ไม่งั้นรถมันจะกางออกมา  บันไดรถก็พับไม่ได้  ทำให้เกะกะพอสมควรเวลาที่พับรถแล้ว หลักอาน...ที่ติดรถมาเหล็กคุณภาพไม่ค่อยดีครับ  ไม่แข็ง  ผมใช้ไปสักพักหลักอานงอครับ  ทำให้ไม่สามารถลดหลักอานเพื่อพับรถได้  ตัวผมไม่หนักนะครับ  แค่ 67 กก.เอง  ถ้าน้ำหนัก 91 กก. จะงอพับเลยหรือเปล่าก็ไม่รู้  ผมแก้ปัญาหาโดยไปซื้อหลักอานของ Dahon มาใส่แทน ยางติดรถ...ขนาด 20x1.2  ปั่นแล้วคล่อง  เบาแรง  แต่หน้าไว  และไม่เหมาะกับถนนในกรุงเทพฯ  ถ้าตกร่องตะแกรงท่อระบายนำล่ะก็...เสร็จเลย ที่สำคัญต้องสูบลมยางให้แข็งอยู่ตลอดเวลาครับ  ถ้าอ่อนเมื่อไหร่จะขี่แล้วรู้สึกย้วย ๆ  ถ้าลมยางอ่อนมากไปยางหลุดขอบ+ขอบเบี้ยวอีก ซี่ลวด...ซื้อมาแล้วต้องให้ร้านตั้งซี่ลวดใหม่  เพราะของเดิมที่มาจากโรงงานตั้งซี่ลวดมาหย่อนมาก  ขี่แล้วดังออดแอด + ล้อส่ายน่ารำคาญ แต่พอปรับตั้ง + แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้แล้ว  ก็เป็นรถที่ใช้งานได้ดีพอสมควรคันนึงครับ

ต้องเลือกสายก่อนครับ จะเอาคันเล็ก เก็บสะดวก(มาก)แต่ขี่ยาก หรือคันใหญ่หน่อย เกะกะ แต่ขี่ดีกว่าเยอะ(มาก) คันเล็กก็ สไดร์ดาร์ ผมเคยลองๆ แต่ไม่ได้ซื้อ เพราะไม่ได้ใช้ตัวเล็กถึงขนาดนั้น แล้วระยะทางที่ผมใช้ถ้าเอาตัวเล็กเหนื่อยแน่ ถ้ารถตัวใหญ่ ล้อ 20นิ้วละ... Dahon ครับ... ผมไม่แนะนำยี่ห้ออื่นเลย เอาแค่นี้ละ เหตุผล ..... ผมซื้อ Dahon Impuse D7 มาเมื่อ 6ปีที่แล้ว ราคาโหดพอประมาณ(ตอนนั้นเกือบหมื่นได้) รถศูนย์โปรไบท์ ขี่ไปทำงาน ลงรถไฟฟ้า พับๆ กางๆ ขี่ ถนนในกทม. ตากฝน จับใส่ท้ายรถ เจอแม้กระทั้งโดนรถเก๋งปาดหน้าเฉี่ยวล้มไปหนนึง.... สลักล็อกเคยล็อกไม่แน่นไปหน รถงี้กางแล้วเบี้ยวเลยครับ...แต่ โปรไบท์ ซ่อมให้ฟรีครับ(แต่ตอนซ่อมเจอช่างพูดจาเป็นตรูดคนนึง ต้องออกหน้างิ้วไปหนึ่งชุด ตอนแรกกะซ่อมเสียตังไม่เป็นไร แต่เค้ากลับซ่อมให้ฟรี เพราะไม่รู้ว่ารับประกันตลอดชีพ) จนตอนนี้ตัวถังกลับมาตรงเหมือนเดิม สภาพตัวรถอาจจะโทรม แต่มันยังขี่ได้ดีเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ ดาฮอน ถ้าคุณซื้อจากตัวแทนที่มีใบรับประกัน ... ตัวถังรับประกันตลอดชีพครับ... ไม่นับระบบกลไกปลดล็อกที่ทำได้เร็วและแม่น เวลาพับแล้วลากจูง เข็นในสถานีรถใต้ดิน ผมว่ามัน"เนียน"กว่าหลายๆยี่ห้อครับ โอเคว่า ถ้าดูอะไหล่ มันอาจจะดูแพง อะไหล่เท่ากันดาฮอนแพงกว่า แต่คุณภาพงานผลิต และความคิดในการออกแบบ เหนือกว่า 1ขั้นครับ..... .......ไม่ต้องเชื่อหน้าม้าอย่างผม ไปลองจับดูเองก็ได้ครับ...... ส่วนเรื่องรุ่น แล้วแต่งบประมาณครับ

ผมใช้ oyama อยู่คับอะไหล่ดีคุ้มค่าคับ

http://183.90.168.241/forum/viewtopic.php?f=63&t=482102&p=6880009
http://www.racing-club.net/board/index.php?topic=6881.0

http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=63&t=482102&start=45
cotoe fkVvo
http://www.bikethongake.com/BikeReview/Review?rpID=

http://www.bikethongake.com/BikeReview/Review/4?rpID=8

http://www.ubonmtb.com/viewtopic.php?f=24&t=4587
http://ebikr.com/store/electric-bike/seb-350d/#CommentsTab

Nissan Pulsar คืออะไร

รุ่นนี้ มันคือเจ้า ทีด้า แปลงโฉมนี่เอง

มาสำรวจราคาขาย Nissan Tiida ในรุ่นต่างๆ ของโฉมปัจจุบันกันดีกว่าครับ ก่อนจะเปลี่ยนโฉมใหม่เป็น New Pulsar 2013

ซึ่งมีทั้งหมด 4 รุ่น แบ่งเป็น 1.6L 3 รุ่น และ 1.8L อีก 1 รุ่น ดังนี้

TIIDA 1.6L
1.6S AT ราคา 688,000
1.6G AT ราคา 762,000
1.6G AT Fun Pack ราคา 780,000

TIIDA 1.8L
1.8G AT ราคา 799,000


ลายล้อของ Nissan Pulsar 2013 ของไทย ค่อนข้างแน่นอนแล้ว

เมื่อเอาล้อตัว Spyshot New Tiida 2013 ที่ถ่ายได้ในไทย มาลองเปรียบเทียบดูกับ Pulsar SSS เวอร์ชั่นออสเตรเลีย
นี่มันล้อ Sylphy ชัดๆ จึงค่อนข้างแน่นอนว่า Tiida 2013 หรือ New Pulsar 2013 ของไทยนั้นจะใช้ล้อลายเดียวกันกับ Nissan Sylphy

แล้วล้อลายเดียวกับ Tiida GTS ของจีน หรือ Pulsar SSS ของออสเตรเลียล่ะ!!!

นิสสันไทย คงรอดูกระแสว่าเมื่อเปิดตัว Pulsar เวอร์ชั่นธรรมดาแล้ว กระแสตอบรับจะดีหรือไม่ ถ้ากระแสตอบรับดี เราคงได้เห็น Pulsar SSS Turbo มาไทยแน่นอน พร้อมกับล้อแม็คลายใหม่แบบตัว GTS ของจีน และ SSS ของออสเตรเลีย

Nissan Sylphy ซิลฟี่ กินน้ำมัน เช็คระยะ 10000 กิโล

ขับน้องฟี่มาได้อาทิตย์กว่าๆ

รู้สึกว่าน้องนิ่ม ขับนุ่ม แต่ฝืดตรงทางชัน

พอดีทำงานที่ป่าตองค่ะ ต้องขับขึ้นลงทุกวัน

ตอนนี้ 823 kms แล้ว

หลังจากได้น้องมา 2-3 วัน

ก็ต้องมาน้องระหกระเหินมาทำงานที่ป่าตอง

โชคดีที่ทำงานมีที่จอดให้ไม่งั้นคงลำบาก

เพราะจอดไม่เก่ง เผลอ ครึ่งตัวของน้องอาจจะอยู่บนถนน 555

คันนี้ 1.8v ตัวรองนะจ้ะ

ขับมาอัตราการกินน้ำมันประมาณ 13 Km/L
แต่ถ้าเป็นช่วงรถติดค่อยๆคลาน หรือขึ้นเขาอาจจะเหลือ 11-12 Km/L
แต่ขับทางไกลเนี่ยคุ้มใจหาย ได้ประมาณ 17-19 Km/l

การสร้างความประทับใจในการบริการหลังการขาย ด้วยการชูจุดเด่น ค่าบำรุงรักษาในระยะ 100,000 กิโลเมตรหรือ 60 เดือน เพียงแค่ 18,898 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์คู่แข่งก็จะมีค่าบำรุงรักษามากกว่า 20,000 บาท  นับได้ว่า เป็น เทคนิคชั้นดีในเชิงการตลาดเลยทีเดียว

http://thainissan.com/category/nissan-sylphy/sylphy-technic/
http://thainissan.com/sylphy4/

------

วันนี้ 06/56 ขับมาได้ หมืนกิโลนิดๆๆเล้ว

ได้เวลาเช็คระยะ

ครั้งแรกที่พาน้องฟี่มาเช็คระยะ

ที่นิสสัน ภูเก็ตศูนย์สะปำ

ไม่ประทับใจเลย มีปัญหาเรื่องลม

----
รีวิวก่อนการเช็คระยะกันหน่อย
http://www.thaisylphyclub.com/index.php
http://www2.nissan.co.th/aftersales/th/aftersales/service-menu-price/ALMERA.html
http://www.nissan.co.th/th/Owning/Maintenance-costs/Sylphy.aspx


สารชะล้าง....จะใส่ไปกับน้ำมันเครื่องเก่าก่อนถ่ายทิ้ง

และต้องสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ทำงานเพื่อให้สารชะล้าง

ทำการกัดคราบเขม่าและน้ำมันเครื่องขี้โหล้ในเครื่องยนต์

มันเป็นเหมือนกรดครับแต่ไม่เข้มข้นในการกัดโลหะ




แต่ส่วนมากใส่แล้วยังไม่ทันน้ำมันเครื่องจะผสมและล้างทั่วเครื่อง

เลย ก็ถ่ายออกแล้ว....ผมไม่เคยใช้เลย.....รถใหม่ยังไม่ค่อยจำเป็น

แต่มันคือรายได้ของศูนย์บริการเขา







ตอนเอารถเช็คศูนย์ครั้งแรก จนท.รับรถถามว่า จะถ่ายน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ หรือกึ่งสังเคาระห์ดี ผมบอกเอาแบบสังเคาระไปเลย รายการ+ค่าใช้จ่ายดังนี้




แหวนรอง จำนวน 1 35 บาท

กรองเครื่อง N16 จำนวน 1 220 บาท

น้ำมันเครื่องเบนซินสังเคราะ 5W40/SL C จำนวน 3 1245 บาท




รวม 1500 บาท

ภาษี 105 บาท

รวมเงิน 1605.- บาท


ปัจจุบันสเปคน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ใช้ได้ 10,000 กิโล หรือ 6 เดือน แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อนครับ

เกรด 10w-30




น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ใช้ได้ถึง 15,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อนครับ

เกรอ 5W-40




ตามหลักน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่ศูนย์หรือพวกชอบใช้กันนัก ค่าความหนืดไม่น่าจะเหมาะสมกับ

ซิวฟี่ด้วยซ้ำ เพราะเป็นรถใหม่ จริงๆควรเป็น 5w-30 มากกว่า




พยายามอย่าเอาข้อมูลสมัยก่อนมาเทียบกับคุณสมบัติน้ำมันเครื่องปัจจุบัน

เขาพัฒนาใด้ดีขึ้นมากแล้วครับ




อึกอย่างเห็นชอบใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์กันนักหนา ไม่ทราบว่า

พวกคุณรู้ถึงความจำเป็นขนาดไหนของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์กันบ้างไหมครับ






Re: 1.6V ราคาเข้าเช็คระยะ 10,000โล เป็นครั้งแรกครับที่กลับเข้าศูนย์ หลังใช้มา 180วัน


« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 05 มิ.ย. 2013, 10:53:43 »




ปัจจุบันสเปคน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ใช้ได้ 10,000 กิโล หรือ 6 เดือน แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อนครับ

เกรด 10w-30




น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ใช้ได้ถึง 15,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อนครับ

เกรอ 5W-40




ตามหลักน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่ศูนย์หรือพวกชอบใช้กันนัก ค่าความหนืดไม่น่าจะเหมาะสมกับ

ซิวฟี่ด้วยซ้ำ เพราะเป็นรถใหม่ จริงๆควรเป็น 5w-30 มากกว่า




พยายามอย่าเอาข้อมูลสมัยก่อนมาเทียบกับคุณสมบัติน้ำมันเครื่องปัจจุบัน

เขาพัฒนาใด้ดีขึ้นมากแล้วครับ




อึกอย่างเห็นชอบใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์กันนักหนา ไม่ทราบว่า

พวกคุณรู้ถึงความจำเป็นขนาดไหนของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์กันบ้างไหมครับ




น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จริงๆ เหมาะกับรถที่เครื่องยนต์ทำงานหนัก

ซึ่งจะเหมาะกับพวกรถซึ่งหรือรถที่ใช้ความเร็วรอบเครื่องสูงๆ เป็นประจำ









(ไม่ใช่มาใช้ในเมือง แล้วรถติด แล้วมาคิดว่าเครื่องทำงานหนัก )




เพราะที่รอบเครื่องสูงๆ เช่น 6000 รอบต่อนาที และใช้รอบสูงอย่างต่อเนื่อง

ความร้อนที่สะสมอย่างมากจะทำให้คุณสมบัติต่างในน้ำมันเครืองเสื่อมสภาพ

ไปชั่วขณะ ซึ่งในกรณีอย่างนี้จะมีแค่น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เท่านั้นที่ทนได้

ในขณะที่กึ่งสังเคราห์กับน้ำมันเครืองธรรมดา จะไม่สามารถทนได้




รถคันเก่าผมใช้กึ่งสังเคราะห์ เปลี่ยนที่ 10,000 กิโล บางที่น้ำมันเครือง

ธรรดาใช้ 10,000 กิโล ด้วยซ้ำไป ใช้ไป 15 ปี กับ สามแสนกว่าโล

ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยครับ




ปอลิง บางครั้งอ่านเหตุผลของคนที่ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราห์ แล้วโคตรงงๆ




การสลับยาง

http://www.automagwheel.com/Tire-Knowledge/Tire-Change.html

http://www.vrclassiccar.com/knowledge3.php

http://www.hondajazzlover.com/forum/index.php?topic=36677.0




เอาง่ายๆ เลยครับ

1.เปลี่ยนเมื่อยางเริ่มแข็งตัว จะรู้ได้อย่างไรว่ายางเริ่มแข็ง เวลาวิ่งยางจะเสียงดังครับ หรือลองเอาเล็บจิกลงไปบนเนื้อยางก็ได้เหมือนกัน

2.เปลี่ยนเมื่อดอกยางเริ่มไม่มีครับ วิธีดูก็คือ ให้สังเกตุในร่องของดอกยางครับ มันจะมีขีดเล็กๆ อยู่ ถ้าดอกยางเรียบเสมอกับขีดเมื่อไหร่ ก็ได้เวลาเปลี่ยนล่ะครับ

3.หากขับไปแล้วกระแทกหลุมอย่างแรง แล้วแก้มยางเกิดบวมปูดขึ้นมา แนะนำให้เปลี่ยนทันทีครับ

4.หมั่นสลับยางทุกหมื่นโลนะครับ


แนะนำ 50000 โล ครับกำลังดีหรือ ไม่ควรเกิน 3 ปีครับ

My new sylphy

รอฤกษ์อย่างเดียวเลย
อย่างนั้นมิรอช้ามาศึกษาข้อมูลเบื้องต้น
กันก่อนดีกว่า
http://www.thaisylphyclub.com/index.php?topic=989.0

เรื่องการแร่งแซง ตามที่ในคลิปเขาอธิบาย มันเป็นความฉลาดของเกียร์ที่จำพฤติกรรมการขับขี่ของเรา  ถ้าจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากปกติ เลยต้องย้ำ 2 ครั้ง เพื่อยืนยันความต้องการ
แต่ทีจริง ใช้ปุ่ม Over drive ก็ได้เหมือนกันครับ  สะดวกดีด้วย

ขอเทคนิคการขับผ่านลูกระนาดกั้นถนนในหมู่บ้านด้วยครับ  มีข้อสังเกตดังนี้
1.ถ้าชะลอรถให้ช้าจนรอบตกลงมามากๆ แล้วค่อยข้ามลูกระนาด พอจะเร่งความเร็วหลังจากข้ามลูกระนาด จะอืดมาก และเหมือนอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจะมาก
2. ลองขับมาประมาณ 40 km/l เหยียบเบรค (รอบยังไม่ตกมาก) แล้วข้ามลูกระนาด การเร่งความเร็วเพื่อขับต่อทำได้ง่ายขึ้น ไม่อืด และดูเหมือนอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันจะน้อยกว่า ข้อ 1

ขอคำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับ case การข้ามลูกระนาดกั้นถนนในหมู่บ้านด้วยครับ

รับรถใหม่ ตรวจอะไรบ้าง

หลังจากรบราฆ่าฟัน กะเซลล์ซึี่่ง แม่ง---คบไม่ได้

ใครจะซื้อที่นิสสัน หาดใหญ่ระวังด้วย

สุดท้ายต้องให้เพื่อนช่วยใช้กำลังภายใน ถึงได้รถมาหลังจากถูกเลื่อนการออกเป็นรอบที่สาม

โดยเซลล์ไม่ได้ติดต่อมาเลย เราต้องติดต่อ เองตลอด

คิดว่าเค้าน่าจะเลื่อนคิวไปให้คนอื่นก่อน  ปล. เราซื้อสด ทำให้เค้าเสียรายได้จาก finance บางส่วน

ที่สำคัญบอกเราอีกว่า ที่ศูนย์นี้ยังไม่ออก sylphy สักคัน พอเราเค้นบอกว่า

อย่ามาหลอกนะ ถ้าเช็คแล้วเจอนี่--ไม่สวยนะ

ก็ไปลากพนักงานอีกคนมา พอเค้ามาความถึงได้แตกว่า ออกไปแล้วหลายคัน

---นี่ถ้าเราเปลี่ยนเซลล์คงไม่ใจร้ายไปใช่ปะ

วันที่ 8 จะไปเช็ครถก่อน --- จึงทำการค้นหา 

คู่มือการดูรถป้ายแดง  ที่ได้มาจากกระทู้ 

แต่ไม่ทราบมทีมาของคนเขียน

จึงให้credit ไม่ถูก 

 แต่ยังไงก็ขอบคุณ--คุณคนเขียนมากเลยนะเคอะ

ขั้นตอนการตรวจรับรถใหม่ป้ายแดง

*รายการตรวจสภาพรับรถใหม่* 

1.ตัวถัง 

______ 1.1 ดูขอบ, สันข้างรถว่าแนวยังตรงดีอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะระหว่างประตู และตัวถัง 

______ 1.2 เปิด/ปิดประตูครบทุกบาน และกระโปรงหน้า-หลัง ได้ดี /ล็อคเด็กประตูหลัง 

______ 1.3 มีสนิมบริเวณขอบประตูแต่ละบานหรือไม่ 

______ 1.4 เห็นรอยสีใหม่พ่นทับสีเก่าในบริเวณขอบประตูหรือไม่ (ถ้ามีขอบยางกันกระแทกลองแง้มดู) 

2. กระจก 

______ 2.1 กระจกทุกบานขึ้นลงได้สุดหรือไม่ (ถ้าเป็นกระจกไฟฟ้าควรดูเป็นพิเศษ) 

______ 2.2 กระจกมีรอยร้าวกกะเทาะหรือไม่อาจจะนําไปสู่การแตกง่ายในอนาคต 

______ 2.3 ลวดละลายฝ้ากระจกหลังยังใช้ได้อยู่หรือไม่ 

______ 2.4 ยางปัดนํ้าฝนต้องเปลี่ยนหรือไม่ 

______ 2.5 ที่ปัดนํ้าฝนยังใช้งานได้ดี 

______ 2.6 ที่ฉีดนํ้าล้างกระจกยังใช้งานได้ดี 

______ 2.7 กระจกมองข้างปรับได้ตามปกติ / พับยังไง ให้แสดงให้ดู 

3. ยางและล้อ 

______ 3.1 เนื้อยางยังนิ่มอยู่พอสมควร / ปียางที่ผลิต / รอยวิ่งของยาง 

______ 3.2 ล้อมีรอยบิ่นหรือไม่ / Mag เก่า ใหม่ 

______ 3.3 แม่แรง / ล้ออะไหล่ / ประแจ / เครื่องมือประจำรถครบหรือไม่ 

4. กลไกขับเคลื่อน 

______ 4.1 เครื่องยนต์เดินเรียบ 

______ 4.2 ความร้อนไม่ขึ้นสูง 

______ 4.3 เข้าเกียร์ได้ครบ 

______ 4.4 เกียร์ไม่หลวม, ไม่มีเสียงดังเวลาเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่ง 

______ 4.5 พวงมาลัยไม่มีเสียงดังเวลาเลี้ยว 

______ 4.6 เวลาปล่อยมือแล้วรถไม่เอียง 

______ 4.7 คลัทช์ไม่แข็งหรือระยะตื้นจนเกินไป 

______ 4.8 ที่เปิดฝาเติมน้ำมันเปิดตรงไหน-สาธิตให้ดูด้วย 

5. ห้องเครื่อง 

______ 5.1 น้ำมันเบรค/ น้ำมันเครื่อง/ น้ำมันเกียร์/ น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ / สายพานต่างๆ น้ำหม้อน้ำ ระดับน้ำฉีดกระจก/ ถามให้รู้ว่าอยู่ตรงไหน 

______ 5.2 สายพานต่างๆ น้ำหม้อน้ำ ระดับน้ำฉีดกระจก/ ลอง Start เครื่องฟังเสียงดู เร่งเครื่อง 

______ 5.3 หมายเลขเครื่อง / หมายเลขตัวถัง / วันผลิต 

--------- 5.4 แผ่นกันความร้อนมีให้หรือไม่-ราคาเท่าไร 

6. ระบบปรับอากาศ 

______ 6.1 แอร์เย็น / ปรับอุณหภูมิได้ 

7. ภายใน 

______ 7.1 หน้าปัดเป็นรอยขูดขีดหรือไม่ / หน้าปัดหลักๆยังใช้งานได้ครบหรือไม่ เช่น เข็มความเร็ว เข็มนํ้ามัน เข็มไมล์ ไฟเบรคมือ เข็มความร้อน 

______ 7.2 เบาะปรับได้ท่าทีถนัด / เข็มขัดนิรภัย ลองปรับ+กระตุก 

______ 7.3 กระจกมองหลังและข้างปรับได้ทัศน์วิสัยที่ดี/ กระจกข้างปรับได้ ลองพับ /Central Lock 

______ 7.4 ยางปูพื้นติดรถมาแบบไหน 

______ 7.5 อุปกรณ์ภายในรถ 

______ 7.5.1 วิทยุติดรถ 

______ 7.5.2 ทดสอบแอร์ ลองแรงลมทุกระดับ ที่วัดอุณภูมิภายใน-นอก /กดแตร 

______ 7.5.3 ที่ปัดน้ำฝน INT 

______ 7.5.4 ไฟเบรคดวงที่ 3 

______ 7.5.5 ไล่ฝ้าหลัง ข้าง ลองกดแล้วจับดูว่าร้อนไหม….. 

______ 7.5.6 หมุนพวงมาลัยจนสุด 2 ด้านมีเสียงดังหรือไม่ 

______ 7.5.7 ไฟหน้า ปรับ ไกล-ใกล้ สูง-ต่ำ 

______ 7.5.8 วิทยุ CD ลองฟังแยกทุกจุดว่า OK 

______ 7.5.9 กระจกไฟฟ้า 4 บาน กระจกข้างปรับได้ ลอง 

______ 7.5.10 สัญญานเตือนไฟเปิด 

______ 7.5.11 สัญญานเตือนประตู/เปิด 

______ 7.5.12 สัญญานเตือนคาดเข็มขัด 

______ 7.5.13 สัญญานเตือนเบรกมือ 

______ 7.5.14 นาฬิกา 

______ 7.5.15 กุญแจ/รีโมต/Central Lock 

______ 7.5.16 ไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ 

______ 7.5.17 ที่เปิดกระโปรง หน้า หลัง ฝาน้ำมันอยู่ตรงใหน 

______ 7.5.18 ช่องเก็บของต่างๆเปิด-ปิด ได้ดีหรือไม่ 

8. ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง 

______ 8.1 ไฟสูง ไฟหน้า และไฟหรี่ เปิดติด ปิดดับ สว่างชัดเจน 

______ 8.2 ไฟเลี้ยวใช้ได้ทั้ง 2 ข้าง 

______ 8.3 ไฟเบรคใช้งานได้ 

______ 8.4 ไฟถอยหลังใช้งานได้ 

9. เอกสารต่างๆ 

______ 9.1 สมุดทะเบียน 

______ 9.2 ใบโอนรถ 

______ 9.3 เอกสารประกันภัย / พรบ. 

______ 9.4 ใบเสร็จรับเงินค่าdown 

______ 9.5 ใบเสร็จค่ามัดจำป้ายแดง 3000 บาท 

______ 9.6 ป้ายแดงมีตรา ขส. 

______ 9.7 คู่มือรถ 

______ 9.8 เอกสารการรับประกันอุปกรณ์รถ 

______ 9.9 เอกสารการรับประกันเช็คระยะฟรี 

______ 9.10 เอกสารการรับประกันอุปกรณ์ตกแต่ง 

----