วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Recommend blog


I love how to decored home in her style.


this is the example








ผู้หญิง กับ การดูแลรถ

เฮ้อ... ช่างฟังดูยาก
ตั้งแต่ตอนเลือกซื้อแล้ว ตอนนี้ได้มาครอบครอง ก็ต้องดูแลกันต่อไป เอ้า
หาข้อมูลด่วน

อย่าให้ใครมาปรามาส ได้ว่า ขับเป็นอย่างเดียว

-เริ่มที่ยางรถก่อนเลย  ควรหมั่นเติมลมยางให้พอดีอยู่เสมอ
เพราะนอกจากจะเป็นการถนอมอายุการใช้งานของยางรถยนต์แล้ว
ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากยางได้จร้า
ถามช่างกี่ทีกี่ทีเค้าก็บอกว่าควรเติมสัปดาห์ละครั้ง  
แต่นะส่วนตัวก็ประมาณ 3-4 สัปดาห์ครั้งค่ะ
เป็นสาวๆ อาจจะดูเองไม่เป็นเติมยากก็ตอนล้างรถก็ได้ค่ะ ย้ำว่า เติมลมยางให้ด้วยนคะ
หรือถ้า advance หน่อย ก็ตามปั๊มค่ะ 
เดี่ยวนี้หัวเติมจะเป็นแบบดิจิทัลแค่กดจำนวน เครื่องก็จะเติมตามที่เรากด
ส่วนถามว่าแล้วเติมเท่าไหร่ล่ะ
ส่วนมากรถทั่วไปก็จะมีบอกไว้ ที่ประตูฝั่งคนขับค่ะ


--ครั้งสุดท้ายที่เพื่อนๆ ทำความสะอาดไส้กรองอากาศคือเมื่อไหร่คะ?? 
เพราะหากปล่อให้ไส้กรองอากาศตัน 
จะทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมันมากขึ้นร้อยละ 10 เลยล่ะค่ะ 
ฉะนั้นจึงควรทำความสะอาดไส้กรองอากาศทุกๆ 2-4 สัปดาห์ 
หรือทุกๆ 2,500 กิโลเมตรเพื่อยืดอายุการใช้งานและการประหยัดน้ำมันค่ะ

ค่อยๆ ทยอยมาลงละกันนะคะ เพิ่งมีรถเป็นของตัวเอง
ก็ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ



เขียนบท อย่างไร ให้โดนใจคนดู -- ชิงชัง


ช่วงนี้ชอบละครพีเรียดจังเลย
หนึ่งในความฝันคืออยากเป็นคนเขียนหนังสือ
ทั้งเรื่องสั้น บทละคร
ที่ชื่นชมตอนนี้ก็มี
คุณ ปราณประมูล(มาลัยสามชาย), คุณศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์ (ชิงชัง)

มาจะตัดบทไปที่ละคร เรื่องชิงชัง
กลับมาดูอีกครั้ง เนื้อเรื่องเข้มข้น กระชับ
มีหลายมุมมองให้แง่คิด
ที่สำคัญ บทมันจะบีบหัวใจคนดูมากไปไหน

ใครไม่รู้จักละครเรื่องนี้ลองไปดูตามลิ้งข้างล่างนี้ได้เลย


คราวนี้ก็เลยสนใจคนเขียนบทเรื่องนี้จัง
ตามไปดูบทสัมภาษณืเค้ากัน


“ละคร” เรื่องมายาที่แฝงอยู่กับชีวิตจริงแทบแยกไม่ออก 
ทั้งตลก น้ำเน่า รัก บู๊ ละครจะดีหรือไม่คนเขียนบท ผู้กำกับ นักแสดง ต่างรับภาระหน้าที่หนักไม่แพ้กัน และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าละคร“ชิงชัง” ที่ใกล้เพิ่งจบไปนั้น คือละครพีเรียดเรื่องหนึ่งที่ถูกกล่าวขวัญและมีเรตติ้งระดับต้น และคำถามมากมายที่เกิดจากละครเรื่องนี้ อีกทั้งเรื่องราวชีวิตคนเขียนบท ที่ M-Open จะพาไปรู้จักกับ “ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์” ผู้ควบคุมบทโทรทัศน์ของค่ายเอ็กแซ็กท์ และผู้เขียนบทละครชิงชัง
       
       
       “เราเคยซื้อเรื่องตาลีบุหงา ก็มีน้องคนหนึ่งเขาส่งมา 2 หน้าเอสี่ อันนั้นก็ซื้อแล้วนะ แต่หมายถึงว่ามูลค่าของมันก็ต่างกันในแง่ของค่าตอบแทน ให้ต่อมไอเดียเราก็ซื้อมาพัฒนา แล้วก็ค่าลิขสิทธิ์หรือว่าเงินที่จะได้ก็ต่าง แล้วแต่ของเอามาทำได้มากน้อยแค่ไหน แต่ในส่วนของชิงชังเราคือคนเขียนบท มันจะมีบางเรื่องที่เราต้องเขียน เขียนเองจะตรวจตัวเองไม่ได้ เราคือคนควบคุมบทเราต้องไม่เขียน (หัวเราะ) แต่อย่างชิงชัง มันคือพีเรียด มีตัวละครเยอะ แล้วเรื่องมันเป็นดรามา ใช้เด็กเขียนไม่ได้ ตอนแรกนักเขียนผู้ใหญ่ท่านหนึ่งจะเขียนพอดีมีปัญหาเรื่องการจัดการนิดหนึ่งแต่เราต้องเปิดชิงชัง แต่เราหาใครไม่ได้ ไม่มีใครเขียนแล้ว เพราะว่ามันเลื่อนออกมา”


       บทตอนที่ 1 …“ชิงชัง” ชิ้นงานจาก “คนควบคุมบท”
      
       หน้าที่เลือกบทประพันธ์ และควบคุมบท ของ “ลักษณ์” หรือ “ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์” หน้าที่โดยหลักคือเลือกมาจากความสนุก โดยจะมีบรรดาผู้เขียนบทส่งเรื่องมาที่บริษัท แล้วเธอก็มีหน้าที่คัดสรร เสนอผู้บริหารต่อไป แต่เพราะความจำเป็น ละครเรื่องชิงชัง ต้องเลื่อนขึ้นมาถ่ายทำเร็วขึ้น จึงทำให้ลักษณ์ ต้องลงมือเขียนเอง และหน้าที่ของเธอ คือดูแลให้บทสนุกรวมไปถึงพิจารณาเนื้อหาว่าแรงไปหรือไม่
      
       “ขั้นตอนการทำงานมันมีเยอะ สมมติว่าเราซื้อนิยายมา เรามีพล็อต หน้าที่ของเราคือทำละคร มันต้องมาดูว่าเราจะพัฒนาเรื่อง เราจะเล่าแบบไหน เราจะทำเป๊ะๆ ตามบทประพันธ์เลยมั้ย หรือเราจะดัดแปลง เราจะตีความใหม่ แล้วเจ้านายของเราอีกคนหนึ่งคือพี่ป้อน (นิพนธ์ ผิวเณร) ว่าอย่างไร พอเราชัดเจนแล้วว่าไปทางไหน ก็หาคนเขียนบทที่เหมาะสม บางทีก้ทำงานเหมือนเซ็นเซอร์ ถ้าเรื่องล่อแหลม หยาบ หรือแรงก็ต้องดู อีกหน้าที่หนึ่งคือเลือกซื้อบทประพันธ์หรือพล็อต สมมติว่าถ้ามีใครอยากจะส่งบทประพันธ์ก็จะส่งมาที่โต๊ะเรานี่แหละ อันไหนที่ใช้ได้เราก็เสนอนาย”
       

      
       บทตอนที่ 2 …“ดัดแปลง” แต่ไม่ “ทำร้าย” บทประพันธ์
      
       หลายคนดูละครแล้วไม่เหมือนในบทประพันธ์ หรือนิยายที่มีให้แต่ดั้งเดิม นั่นแปลว่าเมื่อถูกนำมาเขียนเป็นบทโทรทัศน์ ผู้ตรวจบทอย่าง “ลักษณ์” บอกว่า บทโทรทัศน์อาจต้องมีการดัดแปลง เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและด้านโปรดักชัน แต่ในการดัดแปลง จรรยาบรรณอย่างหนึ่งคือการไม่ทำร้ายบทประพันธ์จนเสียแก่นของเรื่อง
      
       “เราต้องบอกกับเจ้าของบทประพันธ์ค่ะว่าเราจะดัดแปลงอย่างไรบ้าง จริงๆ แล้วถ้าเป็นที่เอ็กแซ็กท์ไม่ว่าเราจะเขียนเอง หรือคนอื่นเขียน เราให้อิสระร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราจะคุยกับเจ้าของบทประพันธ์เลย ถ้าซื้อมาทำจะปรับนะคะ เพราะว่ามีนักเขียนบางท่านเขาชอบให้งานเขาเป็นแบบนั้น เขาไม่แคร์ ไม่ต้องเป็นละครโทรทัศน์ก็ได้ เขาไม่ขายก็มี แต่อย่างเรื่องหัวใจศิลา ที่เป็นของคุณอาริตา ที่บี้เล่น อันนั้นก็ปรับเยอะ แต่เราชี้แจงเขาว่าแก่นมันยังไม่หายไป สาระสำคัญยังอยู่ เขาโอเค”
      
       “บางอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามบทประพันธ์ อย่างกรณีชิงชัง บอกเลยว่าก็ไม่ได้จบตามบทประพันธ์ เพราะว่าในบทประพันธ์พี่ยอดก็กลับไปใช้ชีวิตใหม่เป็นชลาชล ไม่มีใครต้องการอยู่ด้วยกัน เขาบรรลุแล้วว่ามีรักแล้วมีทุกข์ ละครประโลมโลกหลังข่าวลุ้นมาขนาดนั้น ต่างคนต่างบวชเนี่ยไม่ได้ แต่ในบางกรณี ตอนทำเลือดขัตติยา มีคนบอกว่า พี่ติ๊ก (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ไม่ตายได้มั้ย อันนี้ไม่ได้ เพราะว่าคุณต้องรู้ว่าถ้าคุณบิดตรงนี้ คุณทำลายแก่นของบทประพันธ์เขา พระเอกต้องเสียสละด้วยชีวิตของตน อันนี้ จะเห็นแก่คนดูจนทำร้ายบทประพันธ์ไม่ได้”
      
       บทตอนที่ 3 ...ความซาดิสต์ของบท คือเสน่ห์ละครเอ็กแซ็กท์!
      
       ละครหลายเรื่องของค่ายเอ็กแซ็กท์ รวมไปถึงซีเนริโอ เป็นที่กล่าวขวัญของคอละครหลายกลุ่มว่าละครค่ายนี้ ทรมานใจคนดูเหลือเกิน ทั้งพระเอกตาย นางเอกป่วย ญาติพี่น้องมารักกันเอง หรือแม้กระทั่งสามีเป็นเกย์ หลากหลายเรื่องราวที่ทำให้คนดูลุ้น จนผู้คุมบทยอมรับว่าบางครั้งการเล่นกับความรู้สึกของคนดูทำให้ “อิน” จนเกิดกระแสในสังคม
      
       “จริงๆแล้ว สงสารนายนะ คุณบอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ไม่เคยก้าวก่ายเรื่องบทโทรทัศน์ ไม่ลงมาถึงว่าตอนตรงนี้ ต้องหมุนขวดน้ำพริกนานๆ นะ เขาก็ไม่เกี่ยว (ยิ้ม) เขาจะดูอยู่ห่างๆ เริ่มต้นโปรเจกต์เวลาเราเลือกนักแสดงขึ้นไปนำเสนอจะมีความเห็นตรงนั้น เขาจะคอมเม้นต์กว้างๆ รวมๆ ระวังตรงนั้นเครียดไปนะ”
       

       “ ถ้าถามบทแนวนี้ว่าเป็นสไตล์ของเอ็กแซ็กท์มั้ย สงสัยจะใช่ เราชอบกันอย่างนี้ ส่วนหนึ่งเนี่ย เราเล่นกับอารมณ์คนดูค่อนข้างเยอะหลายเรื่อง มันสนุกดี (หัวเราะ) แต่เราคิดเอาเองหรือเปล่าก็ไม่ทราบว่าแฟนละครเอ็กแซ็กท์เนี่ย ชอบแบบนี้ ต้องเข้มข้น คือถ้าเรื่องไหนที่เรื่อยๆ เนี่ยเรื่องนั้นจะไม่ค่อยได้ บางทีมันก็ไม่ได้มาจากบท อย่างกรณีพลิกขวดน้ำพริก ต้องยอมรับว่าเบื้องหลัง บทต้นร่างแรกไม่มี แต่มันเกิดจากเราเขียนคิดว่าฉลากขวดน้ำพริก เผอิญว่าฝ่ายศิลป์เป็นเด็ก เขาคิดถึงผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ อิงก์เจ็ตชัดมาเลย มันเป็นไปไม่ได้ที่พระเอกจะเห็นแล้วจำไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไรล่ะ ก็เลยต้องปิด ต้องหมุนไม่เจอ (หัวเราะ) มันจะไม่ใช่เจตนาให้เรื่องยืดเยื้อ”
      
       บทตอนที่ 4 ...สุขแต่ไส้แห้งจริงหรือ!?
      
       ค่าตอบแทนของอาชีพคนเขียนบท สำหรับมุมมองของควรตรวจบท เธอยอมรับว่าเบื้องต้นของอาชีพนี้อาจลำบาก แต่หากละคร หรือบทที่เขียนติดตลาด อาชีพนี้ ให้ค่าตอบแทนสูงทีเดียว นอกจากนี้ความสุขอย่างหนึ่งคือการมีพื้นที่บอกเรื่องราวให้แก่คนดูและสังคม
      
       “ความสุขจริงๆ คือสุขตอนทำ เวลาเราเห็นบทดีๆ แนวความคิดดีๆ ในแง่ของประโยชน์ของสังคม เรามีแอร์ไทม์ได้คุยกับคนทั้งประเทศ แล้วถ้าเราได้พูดอะไรดีๆ แล้วมีคนได้ยินมันดีจังเลย มีบางกระทู้หลังดูชิงชังตอนผู้ใหญ่แก้วยังอยู่ ดูแล้วคิดถึงพ่อ เดี๋ยวอาทิตย์นี้จะไปหาพ่อสักหน่อย เห็นแบบนี้แล้วชื่นใจนะ อย่างน้อยมันทำให้คนรู้สึกว่าบวกนะ ได้แง่คิดดีๆ เราก็ชื่นใจ อันนี้สุขที่สุดเลย”
      
       “เมื่อก่อนมีคนบอกว่าอาชีพแบบนี้จะไส้แห้ง จะบอกว่าในความรวมนะ อาชีพที่เขียนบทโทรทัศน์เป็นอาชีพที่รายได้ดีมาก ในวงเล็บถ้าคุณทำได้ เราพูดกับน้องเขียนบทว่าเราเหมือนดารา จริงๆ นะ คือถ้าคุณประสบความสำเร็จสักหนึ่งเรื่องจะมีงานเข้ามาเต็มไปหมด แล้วคุณเรียกราคาเท่าไหร่ก็ได้ แต่ถ้าคุณเจ๊งสักเรื่องเดียว งานจะหายหมด”
      
       “เอ็กแซ็กท์เราจ่ายตอนที่บทผ่าน เราอ่านปุ๊บไม่มีอะไรให้แก้ โอเค ส่งตอน 2 มาก็จะจ่ายกันแล้วแต่ตกลง ที่ไม่ให้เข้ามารับเช็คบ่อยๆคือเราจะจ่ายทีละ 3 ตอน ตามมาตรฐาน 3 ตอน 2 อาทิตย์ก็เก็บตังค์ได้แล้ว ราคาก็ตามคุณภาพของงาน บอกได้ว่าบทเนี่ย ราคาอยู่ที่ต่อชั่วโมง มีตั้งแต่ 6 พันบาทต่อชั่วโมง ถึง 28,000 บาทต่อชั่วโมง"
       " ถ้าอยากจะเขียนบทโทรทัศน์ ต้นทุนที่มาเนี่ยต้องเป็นคนชอบดูหนังดูละคร เพราะว่าเจอมาเยอะ เด็กรุ่นใหม่ชอบเขียนหนังสือ มันไม่ใช่งานเขียนหนังสือ หรือนิยาย ถ้าไม่ชอบดูละครในหัวมันต้องคิดเป็นภาพเคลื่นไหว ไม่ใช่งานพรรณนา ถ้าไม่ชอบ ดูหนังดูละครจะพัฒนาได้ยาก เพราะฉะนั้นอีกอันหนึ่งคือต้องเป็นคนชอบเล่าเรื่อง แล้วเล่าได้สนุก ความรู้ด้านโปรดัคชั่นไม่จำเป็นเลย เพราะไม่ได้ช่วยให้คนเขียนบทเขียนสนุก คือถ้าไม่ชอบดูหนังเลยไม่ชอบตรงนี้โอกาสที่จะอยู่ตรงนี้ได้ดี ถามว่าต้องจบนิเทศฯมั้ยจบก็ได้ ไม่จบก็ไม่เป็นไร”
      
       บทตอนที่ 5 ...ได้คำชมคือ “ดารา” แต่โดนด่าคือ “คนเขียนบท”
      
       “นางเอกโง่ พระเอกงี่เง่า”...หลากหลายคำวิจารณ์ในตัวละคร ซึ่งบทมักจะโดนด่าด่านแรก แต่ในมุมมองของคนตรวจบท เชื่อว่าต้องหนักแน่นกับคำวิจารณ์ต่างๆ หากผิดก็แก้ไข และส่วนใหญ่คนที่ได้รับคำชมคือดารา ซึ่งคนเขียนบททุกคนต้องน้อมรับได้ในจุดนี้
      
       “เวลาดูละครแล้วมีคนด่าตัวละครว่าทำไมโง่อย่างนี้ คือต้องไม่หวั่นไหว ตอนสงครามนางฟ้า น้องบี (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) โทร.มาบอกว่าคนด่าเยอะมากเลยพี่ ยังบอกเลยว่า เออก็งี้แหละ มันเหมือนเราเป็นแม่ครัว บางทีเราต้องรู้ว่ามันต้องได้รสชาติแบบนี้ ฟังคนอื่นมากไม่ได้ ฟังบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าเจออะไรในกระทู้แล้วเอามาใส่งานหมด ฟังแล้วเอามากรองอีกที คนเขียนบทจะพูดกันขำๆ ว่าเป็นอาชีพที่น่าสงสาร ไม่เชื่อลองไปดูสิ เวลาละครสนุกคนจะบอกว่านักแสดงเล่นดีมาก ผู้กำกับทำดีจังเลย พอมีปัญหาปั๊บ ด่าว่าบทห่วย พอละครสนุกมาก จะมีแต่คนชมนักแสดง ถ้าเราผิดจริงก็น้อมรับ”
      
       บทตอนที่ 6 ...ทำละครไทยไม่ใช่เรื่องง่าย
       

       แม้ว่าละครของเครือเอ็กแซ็กท์จะไม่มีปัญหาเรื่องการดอง เพราะคู่แข่งใน ททบ.5 ไม่มีแม้แต่รายเดียว ต่างจากช่องอื่นสิ้นเชิง แต่ในการทำละครในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายของคนทีวีแม้แต่น้อย เมื่อสังคมและเทคโนโลยีเปลี่ยนไป
      
       “ทำละครยากขึ้นนะ คนดูถึงจุดอิ่มตัวในหลายๆด้าน เมื่อก่อนดูแล้วเรื่องนี้มาแล้วชัวร์บางทีตอนนี้คนดูละครอิ่มตัว คนดูมีทางเลือก มีแผ่นเครื่องเล่นวีซีดีถูกมาก ยูบีซีก็มี แต่เดี๋ยวนี้มันกระจายเลย ติดจานเยอะแยะ แผ่นก็ถูก ถ้าไม่สนุกก็ยัดแผ่นดูกับครอบครัว มันเลยแข่งกันเยอะ ต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิมเ พื่อจะให้คนดูมาดูเรา นักแสดงก็ต้องตั้งใจ ไม่มีงานกินหมูแล้ว ถ้าไม่ถูกปากก็ไม่จำเป็นต้องกิน เมื่อก่อนคนไม่มีทางเลือก เปิดไป เหงาๆ เดี๋ยวนี้เยอะแยะ โหลดดูยูทิวบ์ก็ได้”
      
       ***


       “บทที่ดีต้องสนุก รู้เรื่อง เข้าใจง่าย แล้วก็มีความแมส มุกตลกส่วนตัว ตลกเฉพาะกลุ่ม ชาวบ้านไม่รู้เรื่องเขาก็ไม่ดู คนตรวจบทต้องดูด้วยว่ามันสนุกมั้ย ทำตัวเป็นคนดู ละครโทรทัศน์ไม่เหมือนหนัง คนดูไม่ให้สมาธิกับมันมาก คุยโทรศัพท์ กินข้าว รีดผ้าไปด้วย เพราะฉะนั้น อย่าซับซ้อน”… บทที่ดี ในมุมมองของ “ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์”
         ประวัติ
       ชื่อ ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
       เกิด สิงหาคม 2508
       การศึกษา ม.ปลาย จาก เตรียมอุดมศึกษา
       ปริญญาตรี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
       การทำงาน Script Director ทำหน้าที่คัดเลือกบทประพันธ์ให้กับค่ายละครเอ็กแซ็กท์ และล่าสุดกับผลงานเขียนบทละครเรื่องชิงชัง


ส่วนผู้ประพันธ์เรื่อง ชิงชัง คือ นามปากกาว่า จุฬามณี



ผมมีสามนามปากกาครับ จุฬามณี เฟื่องนคร ชอนตะวัน

ผลงานตีพิมพ์รวมเล่มแล้วดังนี้..

ชิงชัง,แจกันดอกหญ้า,ไม่ต้องรักเท่าฟ้า,สะบายดี..หัวใจ,แสงดาวไอดินอินเดีย,องค์การบริหารส่วนหัวใจ, หัวใจไม่ใช้เส้นขนาน และเรื่อง มีหมอกบางในตอนเช้า ที่กำลังจะเป็นเล่ม ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น รักเร่เสน่หา


x

มาลงทุน สลากออมสินกันมั๊ย

วันนี้สนใจลงทุนสลากออมสิน
เห็นมีออกใหม่สลากออมสิน 3 ปี
 ----
ลองมาดูกัน หน่วยลงทุึนหน่วยละ 50
ต้องซื้อ ครบ 10000 หน่วย ถึงจะถูกรางวัลทุกงวด 
นั่นคือเป็นเงินที่ต้องลงทุน 500,000
 ----
คราวนี้มาพิจารณาว่าได้รางวัลเล็กที่สุดทุกเดือน 150 บาท
คิดเป็นปีได้ดอกเบี้ย  ก็โอเคเนอะ
----
นี่เราเข้าใจถูกใช่ป่าว  ..เด๋วต้องไปถามธนาคาร

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

E20 E85 คืออะไร


E20 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการนำน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วผสมกับเอทานอล
หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5%
 ในอัตราส่วน เบนซิน 80 : เอทานอล 20 
ได้เป็นน้ำมัน E20 ออกเทน 95 ตามมาตรฐานของกระทรวงพลังงาน
 ใช้ได้กับเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้ E20

--------------
ส่วน

แก๊สโซฮอล์ คือ น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ 
ที่ใช้สำหรับทดแทนน้ำมันเบนซิน (น้ำมันแก๊สโซลีน) 
ที่มีส่วนผสมระหว่างเอทานอลหรือเอทิลแอลกอฮอล์ มีความบริสุทธิ์ 99.5% ผสมกับน้ำมันเบนซิน
 ในอัตราส่วน น้ำมัน 9 ส่วน เอทานอล 1 ส่วน ได้เป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 
ซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่กำหนด และสามารถใช้ทดแทนน้ำมันเบนซิน 95 ธรรมดาได้ 
โดยเติมได้ทันที ไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ใดๆ เพิ่มเติม 
และสามารถเติมสลับหรือผสมกับเบนซิน โดยไม่ต้องรอให้น้ำมันหมดถัง

รถที่ใช้แก๊สโซฮอล์ อยู่ในปัจจุบันจะเปลี่ยนไปใช้ E20 ได้หรือไม่ ???  

รถที่จะใช้ E20 ได้ต้องเป็นรถที่ออกแบบมาเฉพาะ
 โดยมีการพัฒนาอุปกรณ์บางอย่างในระบบน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะสมกับ Gasohol E20 
ซึ่งรถยนต์ในปัจจุบันที่ใช้ Gasohol E10 จึงยังไม่สามารถใช้งาน Gasohol E20 ได้ทันที 
เนื่องจาก Gasohol E20 มีการกัดกร่อนที่สูงกว่าทำให้อุปกรณ์บางชิ้นส่วน

 อาทิเช่น ท่อทางเดินน้ำมัน ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ชุดหัวฉีดน้ำมัน ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 
รวมถึงซีลยางต่างๆ ในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง 
ไม่สามารถทนต่อการกัดกร่อนได้ ในอนาคตหากรถรุ่นเก่าต้องการเปลี่ยนจาก Gasohol E10 เป็น Gasohol E20 จะต้องทำการเปลี่ยนอุปกรณ์บางชิ้นส่วน (แล้วแต่ผู้ผลิต) เพื่อสามารถใช้งานได้

ถ้าถามถึงว่า อันไหนดีกว่า
คงตอบยาก
ว่าจะเอาดีด้านไหน
ลองเปรียบเทียบเอาแล้วกันนะ



ข้อมูลจาก ครูแก่ http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=30e1be65010e3d83&pli=1



  หลายๆคนคงสงสัยว่าน้ำมัน E20 และE85 นั้น 
ถ้าเติมเข้าไปแล้วจะส่งผลกระทบอะไรกับ

เครื่องยนต์หรือป่าว ถึงกับว่า ไม่เติมดีกว่ากลัวเครื่องพัง 
ทั้งๆที่รถยนต์คันนั้นสามารถใช้ได้ 
วันนี้Admin เลยจะไขข้อสงสัยนี้ให้กระจ่าง ว่า E20 และ E85 เป็นอย่างไร 
ควรเติมกับรถยนต์แบบใดบ้าง


แก๊สโซฮอล์ E20 ที่ขายในท้องตลาดบ้านเราตอนนี้ 
 ได้จากการผสมระหว่าง เอทานอล  ( Ethanol )

หรือ เอทิลแอลกอฮอล์  ( Ethyl alcohol )
 ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ผสมกับน้ำมันเบนซินออกเทน 91
ในอัตราส่วน น้ำมันเบนซิน 8ส่วน เอทานอล 2ส่วน
 จึงได้เป็นน้ำมัน Gasohol E20 ออกเทน 95 ครับ

คุณสมบัติที่ต่างไฟจาก E10

น้ำมัน Gasohol E10 ที่มีขายกันแทบทุกปั๊มนั้น 
รถยนต์ส่วนใหญ่ที่เป็นระบบหัวฉีดแล้ว หรือแม้แต่

ระบบคาร์บูเรเตอร์เองก็จะสามารถใช้ได้ โดยแทบจะไม่มีปัญหาต่อเครื่องยนต์  
แต่สำหรับ น้ำมัน Gasohol E20 แล้ว ต้องใช้กับรถยนต์ที่ผลิตมาให้ใข้ได้เท่านั้น
 เนื่องจาก แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติในการกัดกร่อนส่วนประกอบที่เป็นยาง 
หรือเรซิ่นบางอยางจะถูกกัดกร่อนได้เร็วกว่าปกติ

ดังนั้นรถที่ซื้อก่อนปี พ.ศ. 2551 หรือ 2007 ส่วนใหญ่จะใช้น้ำมัน gasohol E20 ไม่ได้ 
ต้องหาอุปกรณ์ที่ทนต่อการกัดกร่อนของแอลกอฮอล์มาเปลี่ยนก่อนจึงจะใช้ได้  
แต่ปัญหาคือ !! 
ไม่รู้ผู้ผลิตรถแต่ละรายจะเสนอทางเลือกนี้ให้แก่ผู้บริโภคหรือไม่? 
และประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ว่าจะหาอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนที่สามารถทนทาน
ต่อการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 พวกนี้มาจากไหน 
และที่สำคัญคือ ไม่รู้ว่าจะต้องเพิ่มอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนใดบ้าง 
แล้วจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่า?

 แล้ว E85 คืออะไร ?


น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้จากการผสมระหว่าง
 เอทานอล  ( Ethanol ) หรือเอทิลแอลกอฮอล์ ( Ethyl alcohol )
ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ผสมกับนำมันออกเทน 91 เช่นเดียวกับ E20 นั้นแหละ
แต่ E85 จะผสมในอัตราส่วน น้ำมันเบนซิน 1.5ส่วน กับเอทานอล 8.5 ส่วน 
จึงได้เป็นน้ำมัน Gasohol E85 ที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนดกรมธุรกิจพลังงานกระทรวงพลังงาน  การผสมแอลกอฮอล์ลงในน้ำมันเบนซินในข้างต้น  เป็นในลักษณะของสารเติมแต่งปรับปรุงค่า
 ออกซิเจนเนต ( Oxygenates ) และค่าออกเทนของน้ำมันเบนซิน



น้ำมัน Gasohol E85 นั้นถือได้ว่าเป็นเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากๆ 
 เนื่องจากมลพิษที่ปล่อยออกมาพร้อมไอเสียน้อยมากเมื่อเทียบกับน้ำมันเบนซินแท้ๆ 


น้ำมัน Gasohol E85 นี้ เป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายในแถบทวีปอเมริกา 
ทั้งประเทศบลาซิล อเมริกา และแคนาดา 
ส่วนในยุโรปก็นิยมใช้เช่นกัน อย่างประเทศสวีเดน เป็นต้น

ส่วนการที่ยังคงต้องเติมน้ำมันเบนซินไว้ 1.5 ส่วนใน 10 ส่วน
 ก็เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์สามารถสตาร์ทติดได้ง่ายในช่วงที่อากาศหนาวเย็นนั่นเอง 
นอกจากนี้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ที่มีเอทานอลผสม

อยู่มากถึงร้อยละ 85 จะมีออกเทนสูงถึง 105 
ซึ่งจะช่วยส่งผลให้รถยนต์มีกำลังเครื่องยนต์สูงขึ้นอีกด้วย


อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมของเอทานอลสูงกว่า 10%

ได้นั้น จะต้องมีการออกแบบเครื่องยนต์มาโดยเฉพาะ ซึ่งเรียกว่า FFV หรือ Flexible Fuel Vehicle 
โดยรถยนต์ประเภท FFV นี้จะได้รับการออกแบบให้ใช้เชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเอทานอล 0-85% 
มีระบบเซ็นเซอร์สำหรับตรวจเช็กอัตราส่วนผสมของเอทานอลกับน้ำมันเบนซินเพื่อควบคุมระบบ
การเผาไหม้เชื้อเพลิงใหม้เหมาะสมกับชนิดของเชื้อเพลิงที่ใช้ รวมทั้งการปรับเปลี่ยนวัสดุระบบ
เชื้อเพลิง เช่น ถังน้ำมัน ท่อจ่ายน้ำมันและหัวฉีดน้ำมัน ให้ทนต่อการกัดกร่อนของเอทานอลได้ดี
แต่โดยรวมแล้วระบบอื่นๆ ของเครื่องยนต์ก็แทบจะไม่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วๆไปเลย ทำให้ต้นทุน
ของรถยนต์ประเภท FFV เพิ่มขึ้นไม่มากมายอย่างหลายๆคนว่ากัน



วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

ผิดไหมที่กรี๊ดเธอ -- โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์


เมื่อเร็ว ๆ นี้ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ แสดงนำประกบบทกับ ซูอี้ เดสชาเนล ในภาพยนตร์เรื่อง “(500) Days of Summer” ผลงานการกำกับเรื่องแรกของมาร์ค เว็บบ์ ที่กลายเป็นภาพยนตร์ฮิตในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ในปี 2009 เขายังแสดงนำในภาพยนตร์ของจอห์น แม็ดเด้น เรื่อง “Killshot” โดยร่วมแสดงกับไดแอน เลน และมิคกี้ รู้ร์ก และในภาพยนตร์ดราม่าโรแมนติคของ เดวิด ซีเกล และสก็อตต์ แม็คจีฮี เรื่อง “Uncertainty” ซึ่งเปิดตัวฉายรอบปฐมทัศน์ที่งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต้ปี 2008

ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของกอร์ดอน-เลวิตต์ ได้แก่ภาพยนตร์ดราม่าเกี่ยวกับสงครามของ คิมเบอร์ลี่ เพียร์ซ เรื่อง “Stop-Loss” ซึ่งเขาประกบบทกับไรอัน ฟิลลิปปี้, แชนนิ่ง ทาทั่ม และแอ็บบี้ คอร์นิช, ภาพยนตร์ดราม่าเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ของสไปก์ ลี เรื่อง “Miracle at St. Anna”, “The Lookout,” ภาพยนตร์ของสก็อตต์ แฟรงก์ ที่นำแสดงโดย เจฟฟ์ แดเนียลส์, แมทธิว กู้ด และอีสล่า ฟิสเชอร์, ภาพยนตร์เรื่อง “Mysterious Skin” ที่ทำให้กอร์ดอน-เลวิตต์ได้รับการยกย่องให้ติดหนึ่งในนักแสดงที่เยี่ยมที่สุดแห่งปี โดยการจัดอันดับของ The New York Times

ในปี 2005, “Brick” ภาพยนตร์ที่คว้ารางวัล Originality of Vision Award จากเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ในปี 2005, “Manic” ภาพยนตร์ที่เข้าร่วมงานเทศกาลซันแดนซ์ในปี 2001 ที่เขาร่วมแสดงกับดอน เชียเดิล และซูอี้ เดสชาเนล, “10 Things I Hate About You” ซึ่งเขาร่วมแสดงกับ ฮีธ เล็ดเจอร์ และจูเลีย สไตลส์, ภาพยนตร์เรื่อง “Halloween: H20” ที่นำแสดงโดยเจมี่ ลี เคอร์ติส, “The Juror” ซึ่งเขาร่วมแสดงกับเดมี่ มัวร์ และอเล็ค บอลด์วิน, ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง “Treasure Planet”, ภาพยนตร์ตลกสุดฮิตเรื่อง “Angels in the Outfield” ที่เขาร่วมแสดงกับแดนนี่ โกลเวอร์ และผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา “A River Runs Through It” ผลงานการกำกับของโรเบิร์ต เร็ดฟอร์ด ที่ทำให้กอร์ดอน-เลวิตต์ ได้รับรางวัล Young Artist Award for Best Actor Under Ten

มีชื่อเล่นว่า โจ บางคนก็เรียก โจอี้ เกิด 17 ก.ค.2524 ที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ครอบครัวมีเชื้อสายยิว พ่อเคยทำงานสถานีวิทยุและเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ส่วนแม่เคยเป็นนักการเมือง คุณตาชื่อ ไมเคิล กอร์ดอน เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ด

แต่เดิมพระเอกหนุ่มมีพี่ชายชื่อแดน เป็นช่างภาพและนักแสดงควงลูกไฟ แต่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2553

โจเซฟเริ่มเข้าวงการตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก จากการถ่ายโฆษณาสินค้าสำหรับเด็ก จนได้โผล่จอแก้วจอเงินอยู่ประจำ ก่อนมาเล่นหนังสำหรับครอบครัวเรื่องดัง Beethoven ปี 2535 ตามด้วย 10 Things I Hate About You ปี 2542

ระหว่างเพลาๆ งานบันเทิง ในปี 2543 โจเซฟเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เลือกวิชาประวัติศาสตร์ วรรณคดี และกวีฝรั่งเศส โดยชอบภาษาฝรั่งเศสมาก ศึกษาเองจริงจังจนพูดได้ แต่ในปี 2547 ดร็อปการเรียนเพื่อรับงานแสดงอย่างจริงจัง โดยตั้งใจเลือกบทแสดงในหนังคุณภาพ ไม่ว่าบทโสเภณีชายในเรื่อง Mysterious Skin ปี 2547 และบทหนุ่มวัยรุ่นที่เข้าไปพัวพันวงจรค้ายาเสพติดใน Brick ปี 2548 ได้รับคำชมไปกระบุงโกย

ผลงานในระยะหลังของดาราหนุ่มร่างเล็ก สูง 178 เซนติเมตร ได้แก่ (500) Days of Summer ปี 2552 ตามด้วย Inception ปี 2553 ที่เข้ามาเสียบบทเด่นแทน เจมส์ ฟรานโก เพื่อประชันซูเปอร์สตาร์ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ได้คำชมไม่น้อยเช่นกัน


จากนั้นเป็นเรื่อง 50/50 ปี 2553 ก่อนจะร่วมทีมแบตแมนใน The Dark Knight Rises ปีนี้ พร้อมด้วย Looper และ Premium Rush ของพ่อมด สตีเว่น สปีลเบิร์ก

โจเซฟให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองไม่ใช่เซเลบริตี้ และไม่ชอบรูปแบบที่ถูกปรุงแต่งให้เป็นคนดังเลย รู้สึกว่าถ้าไปเทียบกับนักบินอวกาศหรือครูแล้ว อาชีพเหล่านั้นน่าทึ่งมากกว่าการที่เป็นดาราแน่นอน

ผลงานแสดงที่ผ่านมา
Premium Rush(2012)   ...ไวลี

Looper(2012)   ...โจ วัยหนุ่ม


The Dark Knight Rises(2012)   ...เล่นเป็น จอห์น เบลค

50 / 50(2011)   ...อดัม

Inception(2010)   ...อาเธอร์

G.I. Joe(2009)   ...เดอะด็อกเตอร์ / เร็กซ์

Brick(2006)   ...แบรนดัน
Mysterious Skin(2005)   ...นีล แม็กคอร์มิก
10 Things I Hate About You(1999)   ...คาเมรอน