อย่างแรกเลยต้องขอออกตัวว่าเป็นคนที่กลัวผีมว๊ากกก..
แต่...ก้ชอบดูหนังผีมากกว่าความกลัวนั้น
กลับมาจากดูหนังผีมักจะหลอนต่อที่บ้านที่ห้องอีกสองสามวัน
แต่ก็ยังมิวาย--
เอาละ หลายคนคงเคยมีปัญหาว่าหนังผีที่เคยดูมันดูไม่เป็นเหตุเป็นผลเรย
ไหนอะความน่ากลัว มีแต่ผีอะไรก็ไม่รู้ออกมาเหมือนปลวกโดนน้ำร้อน
หนังผีไทยหลายๆ เรื่องในช่วงหนึ่งเคยทำให้เราเสียศรัทธา
กับหนังผีไทยมว๊ากก
แต่--ก็มิวาย มีเรื่องที่เปลี่ยนความคิดของเราไป
เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่หลายๆ น่าจะประทับใจอยู่เหมือนกัน
การปูเรื่องที่ดี และตบท้ายได้อย่างสยดสยอง
แต่ก็ยังมีเรื่องราวของความสัมพันธ์ของตัวเอกที่ชวนให้ติดตาม
นับเป็นหนังผีที่พลิกวงการในตอนนั้น
ชอบวิธีการเล่าเรื่อง การดำเนินเรื่อง
การคัดเลือกตัวแสดง เคยดูการสัมภาษณ์ ของพี่โต้งผู้กำกับว่า
"ตอนแรกจะทำหนังผีแนวอื่น แต่จากการหาข้อมูลก็พบรูปภาพถ่ายติดวิญญาณมากมาย
แต่ทำไมไม่มีใครเอามาทำเป็นหนังจริงจังสักที "
และเมื่อเห็นว่าน่าสนใจเลยเขียนบท และคัดตัว ตอนนั้น GTH ยัง
โนเนม จึงไม่มีคนยอมมาคัดตัว เป็นพระเอก แต่อนันดามา
พอมาเราก็รู้ได้เลยว่าเค้าเหมาะกับบทนี้มาก
พอมาเราก็รู้ได้เลยว่าเค้าเหมาะกับบทนี้มาก
ส่วน อิม นั้น พอดีทีมผู้กำกับเป็นคนไม่ดูทีวี จึงไม่รู้ว่าตัวจริงเค้ารั่วขนาดนั้น
พี่โต้งเล่ายิ้มๆ
เอาล่ะ วันนี้มีหนังผีของไทยในดวงใจใมาแนะนำกัน
---
ต่อที่ค่ายนี้อีกสักเรื่องน้า
"ลัดดาแลนด์"
เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องพาครอบครัวย้ายเข้าไปสู่หมูบ้านลัดดาแลนด์ เนื่องจากความกดดันทั้งจากแม่ยาย และหน้าที่การงาน การโดดปลดจากงานกระทันหัน ยังไม่พอ
ยังมาเจอเรื่องราวแปลก ๆ อันน่าสะพรึงกลัวอีกมากมายที่บ้านหลังใหม่
หนังเล่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว
เล่าถึงความบีบคั้นของมนุษย์เงินเดือนคนนึงที่พึงมี เล่าถึงความขัดแย้งของพ่อลูก
เรื่องนี้พี่ก้องดูเครียดจนแอบรู้สึกว่าหรือนี่คือพี่ก้องที่เป็นตัวจริง
ไม่ใช่ที่เห็นทางทีวี เรื่องนี้เล่นเอาเราอินเลย
ยังมี Gth side story เรื่อง ใครฆ่ามะขิ่น ตามมา
โดยส่วนตัวคิดว่า
หนังเล่าเรื่องได้ดี
เรื่องมีอยู่ว่า มะขิ่นหญิงสาวชาวพม่า
ที่พลัดถิ่นมาทำงานในประเทสไทย หลายคนอาจจะเคยดูข่าวว่า
แรงงานต่างชาติทำงานคนไทย พอดูเรื่องนี้แล้ว
ทำให้หันกลับมามองว่า เอ๊ะ หรือมันเป็นมุมมองที่เค้าตั้งใจเสนอ
ในหนังไม่ทิ้ง concept ความกดดันของชีวิต
แต่ย้ายจากชนชั้นระดับกลางอย่างในเรื่องลัดดาแลนด์
มาโฟกัสที่ชนใช้แรงงาน แถมเป็นแรงงานต่างชาติ
ที่ไม่มีสิทธิมีเสียงในการเรียกร้องความถูกต้องให้ตัวเอง
และสุดท้ายก็ถูกจบชีวิตยัดในตู้เย็น ดังที่ผู้ชมลัดดาแลนด์รู้กันดี
หนังไม่ได้บอกโต้งๆว่าใครฆ่า
เหมือนเป้นการบอกโดยอ้อมๆว่า ทุกคนเป็นส่วนนึงในการนำมาสู้จุดจบของมะขิ่น
-----------
ยังมี Gth side story เรื่อง ใครฆ่ามะขิ่น ตามมา
โดยส่วนตัวคิดว่า
หนังเล่าเรื่องได้ดี
เรื่องมีอยู่ว่า มะขิ่นหญิงสาวชาวพม่า
ที่พลัดถิ่นมาทำงานในประเทสไทย หลายคนอาจจะเคยดูข่าวว่า
แรงงานต่างชาติทำงานคนไทย พอดูเรื่องนี้แล้ว
ทำให้หันกลับมามองว่า เอ๊ะ หรือมันเป็นมุมมองที่เค้าตั้งใจเสนอ
ในหนังไม่ทิ้ง concept ความกดดันของชีวิต
แต่ย้ายจากชนชั้นระดับกลางอย่างในเรื่องลัดดาแลนด์
มาโฟกัสที่ชนใช้แรงงาน แถมเป็นแรงงานต่างชาติ
ที่ไม่มีสิทธิมีเสียงในการเรียกร้องความถูกต้องให้ตัวเอง
และสุดท้ายก็ถูกจบชีวิตยัดในตู้เย็น ดังที่ผู้ชมลัดดาแลนด์รู้กันดี
หนังไม่ได้บอกโต้งๆว่าใครฆ่า
เหมือนเป้นการบอกโดยอ้อมๆว่า ทุกคนเป็นส่วนนึงในการนำมาสู้จุดจบของมะขิ่น
-----------
อีกเรื่องนึงที่ประทับใจมาก
"สี่แพร่ง"
ความกลัวมีหลายรูปแบบ…
กลัวเมื่อได้รับข้อความจาก “คนตาย”
กลัวเมื่อได้รับข้อความจาก “คนตาย”
กลัวเมื่อต้องโดน “คนตาย” เอาคืน
กลัวเมื่อต้องนอนติดกับ “คนตาย” และ
กลัวเมื่อต้องร่วมเดินทางไปกับ “ศพ”
คุณจะทำอย่างไร ?! เมื่อความกลัว จู่โจมจากทุกทาง !!!
“เหงา” เป็นความเหมือนจริง เป็นความน่ากลัวของคนเมือง
ที่ถึงแม้จะมีแสงสีมีความวุ่นวายอย่างไร แต่ก็ยังเกิดความน่ากลัวขึ้นจนคุณสัมผัสได้
ไม่มีใครปฏิเสธว่าการมีมือถือ หรือการส่ง SMS เป็นปัจจัยที่ 5 ของเราไปแล้ว
และอะไรจะเกิดขึ้นถ้ามีหญิงสาวคนหนึ่ง มีความจำเป็นต้องอาศัยอยู่คนเดียวในห้องแคบๆ
แล้วได้รับการติดต่อผ่าน SMS จากคนแปลกหน้า
โดยที่เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเค้าเป็นใคร มาจากไหน
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดในห้องของเธอ…
“ยันต์สั่งตาย” เรื่องราวของการแก้แค้น การเอาคืนของคนที่มีวิชาอาคม
เป็นการเอาคืนโดยการเล่นของอย่างหนึ่งในรูปแบบของยันต์ ที่เรียกว่า “ยันต์สั่งตาย”
เพื่อมาไล่ล่าแก้แค้นแทน แต่สุดท้ายหนังต้องการจะบอกว่าการแก้แค้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย
เพราะมันจะไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีวันสงบสุข !
“คนกลาง” ว่าด้วยเรื่องของกลุ่มเพื่อน 4 คนที่ไปเที่ยวป่าด้วยกัน
และทำในสิ่งที่ถ้าใครได้ดูหนังผีจะไม่ทำกัน คือเด็กกลุ่มนี้ไปเล่าเรื่องผีกันในป่าว่าเวลามาเที่ยวป่า
ต้องไม่นอนริมสุด เพราะจะโดนผีเล่นงาน แล้วพอตอนนอนจริงๆทุกคนก็ต่างแย่งกันนอนตรงกลาง
กันหมด แต่แล้วจะทำอย่างไรเมื่อคนที่นอนตรงกลางกลับเป็นคนที่โดนผีหลอกคนแรก!
“Last Fright” เรื่องราวของแอร์โฮสเตสคนหนึ่งที่ต้องเดินทางไปกับผู้โดยสารวีไอพี
ที่เป็นเจ้าหญิงจากต่างประเทศ ที่เมื่อได้ขึ้นไปรับใช้บนเครื่อง
แล้วรู้สึกว่าเจ้าหญิงเอาแต่ใจและค่อนข้างโหดร้ายกับเธอตลอดทั้งไฟลท์
แต่เรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหญิงเกิดสิ้นพระชนม์ เลยต้องขนศพเจ้าหญิงกับประเทศ
แอร์โฮสเตสคนนี้เลยต้องเดินทางไปกับศพด้วย
แล้วเรื่องสยองและน่ากลัวต่างๆก็เกิดขึ้นบนเครื่องตลอดการเดินทาง !
-----
ขอต่อที่ค่ายนี้อีกสักเรื่อง
เด็กหอ
เรื่องนี้พี่ย้งผู้กำกับ เล่าว่าตอนเด็กๆ ตัวเองเป็นเด็กคนหนึ่งที่ต้องอยู่โรงเรียนประจำ
และแน่นอนในทุกโรงเรียนมันจะมีเรื่องเล่าชวนขนหัวลุก
ไว้เล่ากันตอนกลางคืน รอบ กองไฟ หรือ รับน้องใหม่ แน่นอน
มันอยู่ที่ว่าเรื่องที่ว่ามันจะมีที่มาหรือเพิ่งเรื่องเล่าที่กุขึ้นมา
เรื่องเด็กหอ -- เป็นเด็กชายคนนึงที่สูญเสียความศรัทธาในตัวพ่อ
และรู้ัสึกเหมือนตัวเองถูกผลักใสให้มาอยู่โรงเรียนประจำ
ด้วยความที่เป็นเด็กใหม่ทั้งเหงา ทั้งเศร้า ทำให้เขาได้มาเจอเพื่อนที่ใครก็ไม่คาดคิด
-------
เรื่องต่อมาเลยนะ
"The Fatality ตอกตราผี"
เรื่องนี้เรียกว่าเป็นม้านอกสายตาทีเดียว
จับพลัดจับผลูได้แผ่นมาและก็ได้ดู
จากที่ไม่เคยรู้จักชื่อเรื่องเลย ไม่เคยได้ยินคำโปรย
มันดีเกินคาดมาก
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ
อัสนี (เคนจิ วู) นายทะเบียนหนุ่ม ได้ฟื้นขึ้นจากอุบัติเหตุที่เกือบคร่าชีวิตเขา
แต่การฟื้นครั้งนี้ ทำให้เขากลายเป็นอัสนีคนใหม่ ที่พูดภาษาจีนและจำใครไม่ได้เลย
แม้แต่ นกุล (พิชญ์นาฎ สาขากร)ภรรยาของเขา
เขาพยายามบอกกับทุกคนว่า ชื่อที่แท้จริงของเขาคือ เหอซื่อหยง
มองจากมุมมองของเหอซื่อหยง เขาเป็นชายหนุ่มชาวไต้หวันที่น้อยเนื้อต่ำใจในชะตาชีวิต
จึงคิดฆ่าตัวตาย แต่กลับฟื้นขึ้นมาในร่างของหนุ่มไทยที่มีพร้อมทุกอย่าง
และภรรยาสาวแสนสวย คนรอบตัวอัสนีต่างก็หนักใจในความผิดปกตินี้
จิตแพทย์หนุ่ม สแตนลีย์ (แมตต์ วู) จากไต้หวัน ช่วยให้เหอซื่อหยงในร่างอัสนี ค่อยๆ ค้นพบความลับบางอย่างในห้องใต้ดินของที่ทำงาน ความหวาดกลัวค่อยๆ คืบคลานเข้ามา
จิตแพทย์หนุ่ม สแตนลีย์ (แมตต์ วู) จากไต้หวัน ช่วยให้เหอซื่อหยงในร่างอัสนี ค่อยๆ ค้นพบความลับบางอย่างในห้องใต้ดินของที่ทำงาน ความหวาดกลัวค่อยๆ คืบคลานเข้ามา
วิญญาณของเจ้าของร่างเดิมกลับมาเพื่อทวงร่างคืน
การต่อสู้ของอำนาจเหนือธรรมชาติระหว่างวิญญาณ 2 ดวง เพื่อแย่งชิงร่างและความรักจึงเกิดขึ้น
------
เรื่องต่อมา
โลงต่อตาย : The Coffin
เป็นหนังที่น่าดูอีกเรื่อง มีเรื่องราวซับซ้อนที่รอการคลี่คลายในตอนจบ
คริส (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) สถาปนิกหนุ่มที่กลัวความแคบอย่างรุนแรง ได้มาเข้าพิธีนอนโลงสะเดาะเคราะห์ตามความเชื่อของคนไทย เพื่อหวังต่อชีวิตแฟนสาว มาริโกะ (อากิ ชิบูย่า) ที่อยู่ในอาการโคม่าหายดี ส่วนซู (คาเรน ม็อค) นักโภชนาการสาว ผู้เคร่งครัดต่อการดูแลสุขภาพ แต่ก็พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งปอดในระยะสุดท้าย เธอหนีมาประเทศไทยก่อนแต่งงานกับคู่หมั้นหนุ่ม (แอนดรู ลิม) โดยเห็นการทำพิธีนอนโลงสะเดาะเคราะห์ ในทีวีจึงลองเข้ามาทำพิธี
จากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น แฟนสาวของคริส หายจากอาการโคม่าโดยปลิดทิ้ง แต่ก็เกิดเหตุการณ์ถูกผีสาวแม่ลูกอ่อนตามหลอกหลอน ส่วนซูก็หายจากมะเร็งอย่างเหลือเชื่อ แต่ก็ได้พบกับคู่หมั้นหนุ่มโดยมิได้นัดหมาย แต่ก็มาพบภายหลังว่าแฟนหนุ่มของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกะทันหันหลังเธอหายป่วยจากมะเร็ง เพื่อนรักของเธอ (ฟลอเร้นซ์) ก็เข้ามาร่วมไขปริศนา แต่ก็พบว่าความโชคร้ายต่าง ๆ ไม่ได้หายไปไหน แต่...มันจะเป็นอย่างไรต้องติดตาม
-------
เรื่องต่อไป
ผีคนเป็น
ไม่มีคน อย่าคิดว่า...ไม่มีใคร
ติ่ง หญิงสาวที่มีอาชีพนักแสดงตัวประกอบ เธอฝันว่าสักวันจะต้องเป็นนักแสดงเด่นดังวันหนึ่ง
ติ่งรับงานเป็นนักแสดงให้กับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพให้ตำรวจ ด้วยการแสดงที่สมจริง มีอารมณ์ร่วม และดูไม่น่าเบื่อ ทำให้เป็นที่สนใจ ชื่นชอบ ของนักข่าว
จนได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีดังแห่งยุค "มีน" อดีตนางสาวไทยที่ถูกฆ่าอย่างอำมหิต จนเป็นคดีสะเทือนขวัญ โดยมี หมอจรัล ผู้เป็นสามีและ คุณไฝ ตกเป็นผู้ต้องสงสัย และเธอจะต้องถูกผีของคุณมีนเข้าสิงด้วย ซึ่งระหว่างการถ่ายทำอยู่นั้น เธอได้ประสบกับเรื่องแปลก ๆ ทั้งที่เกิดขึ้นกับตัวเธอจนควบคุมตัวไม่ได้ ตลอดจนคนในกองถ่ายทั้งหมดก็ค่อย ๆ ตายไปทีละคน ๆ
--------
ต่อมาด้วยเรื่อง The eye 1
------
The eye 10
ต่อมาด้วยเรื่อง The eye 1
------
The eye 10
จบแระวันนี้ขอปิดโรงก่อนน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น