วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ฟื้นฝอยหา tense

ยกตัวอย่างการใช้เห็นภาพตามเบย
เพราะแค่การท่องรูปแบบ tense อย่างเดียวมันเอามาใช้จริงยากจร้า
มีหลายที่เขียนได้อ่านง่ายจึงขอ copy มาไว้ ณ ตรงนี้
เครดิตใต้ข้อความเลยค้าบ


    กลายเป็นปัญหาภาษาอังกฤษที่สร้างความปวดหัว งุนงง ให้น้อง ๆ หลายคนจริง ๆ สำหรับหลักการใช้ Tense ทั้ง 12 แบบ ที่ต้องทำความเข้าใจกันซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้จะเรียนกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นก็ดูเหมือนว่าจะยังคงสับสนอยู่ดี วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขอพูดถึงหลักการใช้ Tense กันเสียหน่อย เพื่อให้น้อง ๆ ได้ลองทำความเข้าใจกันใหม่อีกครั้งนะคะ เอ้า สูดหายใจเข้าไปลึก ๆ แล้วไปทบทวนพร้อม ๆ กันเลยค่ะ 
 1. Present Simple Tense ใช้เพื่อบอกความจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน 
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + V1 
          ตัวอย่างประโยค: 
              I study at Harvard University.  ฉันเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
              The Sun rises in the east. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก
              He calls me honey. เขาเรียกฉันว่าที่รัก

 2. Past Simple Tense ใช้เพื่อบอกความจริงที่เกิดขึ้นในอดีต และตอนนี้ทุกอย่างก็ได้จบลงแล้ว
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + V2  
          ตัวอย่างประโยค: 
              I lived in Germany. ฉันเคยอยู่ที่ประเทศเยอรมนี
              Daddy called me last night.  พ่อโทรมาหาฉันเมื่อคืน

 3. Future Simple Tense ใช้เพื่อบอกความตั้งใจ หรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + will, shall + V1 
          ตัวอย่างประโยค:    
              I will go to Japan next month. ฉันจะไปญี่ปุ่นเดือนหน้า
              I will send you my photo tonight. ฉันจะส่งรูปฉันให้ดูคืนนี้

 4. Present Continuous Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่ ณ ขณะที่พูด และใช้บอกการกระทำที่ทำอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานี้ (ปีนี้, เดือนนี้) หรือบอกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ก็ได้
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + is, am, are + V ing
          ตัวอย่างประโยค:    
              I am going to school. ฉันกำลังจะไปโรงเรียน
              He is walking on the street. เขากำลังเดินอยู่บนถนน
              Cherry is preparing for final exam. เชอร์รี่กำลังเตรียมตัวสอบปลายภาค

 5. Past Continuous Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต หรือบอกเหตุการณ์หนึ่งในอดีตที่กำลังดำเนินอยู่ ก่อนที่อีกเหตุการณ์จะเกิดขึ้น
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + was, were + V ing 
          ตัวอย่างประโยค: 
              I was working all day yesterday. ฉันยุ่งทั้งวันเลยเมื่อวานนี้
              When I opened the door, my father was watching TV. ตอนผมเปิดประตูเข้าบ้าน พ่อผมกำลังดูทีวีอยู่

 6. Future Continuous Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต และใช้กับเหตุการณ์หนึ่งในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ก่อนที่อีกหนึ่งเหตุการณ์จะเกิดตามมา
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + will be + V ing
          ตัวอย่างประโยค: 
              I will be studying in tomorrow morning. พรุ่งนี้ตอนเช้า ผมคงจะกำลังเรียนอยู่
              I will be working when you finish your work. ผมคงจะกำลังทำงานอยู่ เมื่อคุณเลิกงานแล้ว

 7. Present Perfect Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และจะใช้ since, for ร่วมด้วยเสมอ หรือบอกเล่าถึงสิ่งที่เพิ่งจะจบลงหมาด ๆ
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + have,has +V3 
          ตัวอย่างประโยค:    
              I have worked in Japan since 2010.  ฉันทำงานที่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2010
              Nancy has stayed with me for 10 months.  แนนซี่อยู่กับฉันมา 10 เดือนแล้ว
              I have already finished my homework.  ผมเพิ่งทำการบ้านเสร็จ

 8. Past Perfect Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แน่ชัด หรือใช้เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต โดยจะใช้ Past Perfect Tense กับเหตุการณ์ที่เกิดก่อนเสมอ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีหลังใช้ Past Simple Tense
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + had +V3 
          ตัวอย่างประโยค: 
              Two students had gone before the teacher came to the room.  นักเรียนสองคนออกไปจากห้องแล้ว ก่อนที่ครูจะเข้ามา
              Before I met her, I had met Sandy. ก่อนที่ฉันจะเจอเธอ ฉันเจอแซนดี้

 9. Future Perfect Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่คาดว่าจะสิ้นสุดลงในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต หรือใช้กับเหตุการณ์หนึ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ก่อนที่อีกเหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้นตามมา
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + will + have + V3 
          ตัวอย่างประโยค:    
              Apple will have launched its new iPhone by 2012. แอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ภายในปี 2012
              My father will have gone when I get up.  เมื่อฉันตื่น พ่อฉันก็คงไปแล้ว

 10. Present Perfect Continuous Tense  ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และเน้นว่าจะทำต่อไปในอนาคตด้วย เรียกว่ามีหลักการใช้เหมือนกับ Present Perfect Tense เพียงแต่เน้นถึงความต่อเนื่องและเน้นว่าจะทำต่อไปเท่านั้นเอง
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + have/has been + V ing 
          ตัวอย่างประโยค: 
              I have been working in Japan since 2010. ฉันทำงานที่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2010
              Nick have been living in London for 2 months. นิคอาศัยอยู่ในลอนดอนมาได้ 2 เดือนแล้ว

 11. Past Perfect Continuous Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต และได้สิ้นสุดลงแล้ว เรียกว่ามีหลักการใช้เหมือนกับ Past Perfect Tense เพียงแต่เน้นถึงความต่อเนื่องชัดเจนขึ้น
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + had been + V ing 
          ตัวอย่างประโยค: 
              I had been painting the wall before the dog scratched it.  ฉันทาสีกำแพงก่อนที่เจ้าหมาจะมาขีดข่วนมัน
              My father had been smoking for 5 years before I was born. พ่อฉันสูบบุหรี่จัดเป็นเวลา 5 ปี ก่อนที่ฉันจะเกิด

 12. Future Perfect Continuous Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต และก็จะดำเนินต่อไปอีกหลังจากนั้น หรือใช้เหมือนกับ Future Perfect Tense แต่เน้นความต่อเนื่องของการกระทำหนึ่งในอนาคต
          โครงสร้างไวยากรณ์: S + will/shall + have been + V ing 
          ตัวอย่างประโยค:  
              By the next year, I will have been working for 10 years. ผมจะทำงานครบ 10 ปีในปีหน้านี้
              In ten minutes I will have been waiting 1 hour for the bus.  อีก 10 นาที ผมจะรอรถเมล์ครบ 1 ชั่วโมงพอดี 
ที่มา http://education.kapook.com/view51089.html

------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หลักการใช้ Tense ทั้ง 12

Tense
Tense  ในภาษาอังกฤษนี้จะแบ่ง ออกเป็น  3  tense  ใหญ่ๆคือ
               1.     Present   tense        ปัจจุบัน
               2.     Past   tense              อดีตกาล
               3.     Future   tense          อนาคตกาล
ในแต่ละ  tense ยังแยกย่อยได้  tense  ละ  4  คือ
              1 .   Simple   tense    ธรรมดา(ง่ายๆตรงๆไม่ซับซ้อน).
              2.    Continuous  tense    กำลังกระทำอยู่(กำลังเกิดอยู่)
              3.     Perfect  tense     สมบูรณ์(ทำเรียบร้อยแล้ว).
              4.     Perfect  continuous  tense  สมบูรณ์กำลังกระทำ(ทำเรียบร้อยแล้วและกำลัง ดำเนินอยู่ด้วย).
โครงสร้างของ  Tense  ทั้ง  12  มีดังนี้

Present  Tense
                      [1.1]   S  +  Verb  1  +  ……(บอกความจริงที่เกิดขึ้นง่ายๆ ตรงๆไม่ซับซ้อน).
[Present]       [1.2]   S  +  is, am, are  +  Verb  1  ing  +  …(บอกว่ากำลังเกิดอะไร อยู่).
                      [1.3]   S  +  has, have  +  Verb  3 +  ….(บอกว่าได้ทำมาแล้วจนถึง ปัจจุบัน).
                      [1.4]   S  +  has, have  +  been  +  Verb 1 ing  + …(บอกว่าได้ทำมาแล้วและกำลังทำ ต่อไปอีก).
Past Tense
                      [2.1]  S  +  Verb 2  +  …..(บอกเรื่องที่เคยเกิดมาแล้วใน อดีต).
[Past]            [2.2]  S  +  was, were  +  Verb 1  +…(บอกเรื่องที่กำลังทำอยู่ในอดีต).
                      [2.3]  S  +  had  +  verb 3  +  …(บอกเรื่อ'ที่ทำมาแล้วในอดีตใน ช่วงเวลาหนึ่ง).
                      [2.4]  S  +  had  +  been  +  verb 1 ing  + …(บอกเรื่องที่ทำมาแล้วอย่างต่อ เนื่อง).
Future Tense
                      [3.1]  S  +  will, shall  +  verb 1  +….(บอก เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต).
[Feature]       [3.2]  S  +  will, shall  +  be  +  Verb 1 ing  + ….(บอกว่าอนาคตนั้นๆกำลังทำอะไร อยู่).
                      [3.3]  S  +  will,s hall  +  have  +  Verb 3  +…(บอกเรื่องที่จะเกิดหรือสำเร็จ ในช่วงเวลาหนึ่ง).
                      [3.4]  S  +  will,shall  +  have  +  been  + verb 1 ing  +.. ..(บอกเรื่องที่จะทำอย่างต่อเนื่องในเวลาใด -  เวลาหนึ่งในอนาคตและ จะทำต่อไปเรื่อยข้างหน้า).  
                
หลักการใช้แต่ละ  tense  มีดังนี้
              [1.1]   Present  simple  tense    เช่น    He  walks.   เขาเดิน,
1.    ใช้กับ เหตุการที่เกิดขึ้นตามความจริงของธรรมชาติ และคำสุภาษิตคำ พังเพย.    
2.    ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริงในขณะที่พูด  (ก่อนหรือหลังจะไม่จริงก็ตาม).
3.    ใช้กับกริยาที่ทำนานไม่ได้   เช่น  รัก,  เข้าใจ, รู้  เป็นต้น.
4.    ใช้กับการกระทำที่คิดว่าจะเกหิดขึ้นในอนาคตอันใกล้(จะมีคำวิเศษณ์บอกอนาคตร่วมด้วย).
5.    ใช้ในการเล่าสรุปเรื่องต่างๆในอดีต  เช่นนิยาย นิทาน.
6.    ใช้ในประโยคเงื่อนไขในอนาคต    ที่ต้นประโยคจะขึ้นต้น ด้วยคำว่า    If    (ถ้า),       unless   (เว้นเสียแต่ว่า),    as  soon  as  (เมื่อ,ขณะที่),    till  (จนกระทั่ง) ,   whenever   (เมื่อไรก็ ตาม),    while  (ขณะที่)   เป็นต้น.
7.    ใช้กับเรื่องที่กระทำอย่างสม่ำเสมอ  และมีคำวิเศษณ์บอกเวลาที่สม่ำเสมอร่วมอยู่ด้วย  เช่น  always (เสมอๆ),  often   (บ่อยๆ),    every  day   (ทุกๆวัน)    เป็นต้น.
8.    ใช้ในประโยคที่คล้อยตามที่เป็น  [1.1]  ประโยคตามต้องใช้   [1.1]  ด้วยเสมอ.


[1.2]   Present  continuous  tense   เช่น   He  is  walking.  เขากำลังเดิน.
1.    ใช้ในเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในขณะที่พูด(ใช้  now ร่วมด้วยก็ได้ โดยใส่ไว้ต้น ประโยค, หลังกริยา หรือสุดประโยคก็ ได้).
2.    ใช้ในเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในระยะเวลาอันยาวนาน  เช่น  ในวันนี้ ,ในปีนี้ .
3.    ใช้กับเหตุการณ์ที่ผู้พูดมั่นใจว่าจะต้องเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้  เช่น เร็วๆนี้, พรุ่งนี้.
*หมายเหตุ   กริยาที่ทำนานไม่ได้  เช่น  รัก ,เข้าใจ, รู้, ชอบ  จะนำมาแต่งใน  Tense  นี้ไม่ได้.

            [1.3] Present perfect tense เช่น He has walk เขาได้เดินแล้ว.
1.    ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต และต่อเนื่องมาจนถึง ปัจจุบัน  และจะมีคำว่า Since  (ตั้งแต่) และ for  (เป็นเวลา) มาใช้ร่วมด้วยเสมอ.
2.    ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้เคยทำมาแล้วในอดีต (จะกี่ครั้งก็ได้ หรือจะทำอีกใน ปัจจุบัน หรือจะทำในอนาคต ก็ได้)และจะมีคำ ว่า  ever  (เคย) ,  never  (ไม่เคย) มาใช้ร่วมด้วย.
3.    ใช้กับเหตุการณ์ที่จบลงแล้วแต่ผู้พูดยังประทับใจอยู่ (ถ้าไม่ประทับใจก็ใช้   Tense
4.    ใช้กับ เหตุการที่เพิ่งจบไปแล้วไม่นาน(ไม่ได้ประทับใจอยู่) ซึ่งจะมีคำเหล่านี้มาใช้ร่วมด้วยเสมอ คือ  Just   (เพิ่งจะ), already  (เรียบร้อยแล้ว), yet  (ยัง), finally  (ในที่สุด)  เป็นต้น.



   [1.4] Present  perfect  continuous  tense    เช่น  He  has  been  walking .  เขาได้กำลังเดินแล้ว.
*  มีหลักการใช้เหมือน  [1.3]  ทุกประการ เพียงแต่ว่าเน้นว่าจะทำต่อไปในอนาคตด้วย    ซึ่ง [1.3] นั้นไม่เน้นว่าได้กระทำอย่างต่อเนื่องหรือไม่  ส่วน [1.4]  นี้เน้นว่ากระทำมาอย่างต่อเนื่องและจะกระทำต่อไปในอนาคตอีกด้วย.

             [2.1] Past  simple  tense      เช่น  He  walked.  เขาเดิน แล้ว.
1.   ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงแล้วในอดีต   มิได้ต่อเนื่องมาถึงขณะ ที่พูด และมักมีคำต่อไปนี้มาร่วมด้วยเสมอในประโยค เช่น  Yesterday, year  เป็นต้น.
2.    ใช้กับเหตุการณ์ที่ทำเป็นประจำในอดีตที่ผ่านมาในครั้งนั้นๆ ซึ่งต้องมีคำวิเศษณ์บอกความถี่ (เช่น Always, every  day ) กับคำวิเศษณ์ บอกเวลา (เช่น  yesterday,  last  month )  2  อย่างมาร่วมอยู่ด้วยเสมอ.
3.    ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต  แต่ปัจจุบันไม่ได้เกิด อยู่ หรือไม่ได้เป็นดั่งในอดีตนั้นแล้ว  ซึ่งจะมีคำว่า  ago  นี้ร่วมอยู่ด้วย.
4.      ใช้ในประโยคที่คล้อยตามที่เป็น [2.1]  ประโยคคล้อยตามก็ต้อง เป็น [2.1]  ด้วย.

        [2.2]   Past continuous  tense   เช่น    He  was  walking .  เขากำลังเดินแล้ว
1.     ใช้กับเหตุการณ์   2   อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน  { 2.2  นี้ไม่นิยมใช้ตามลำพัง - ถ้าเกิดก่อนใช้  2.2   -  ถ้าเกิดทีหลังใช้ 2.1}.
2.     ใช้กับเหตุการณ์ที่ ไดกระทำติดต่อกันตลอดเวลาที่ได้ระบุไว้ในประโยค  ซึ่งจะมีคำบอกเวลาร่วมอยู่ด้วยในประโยค  เช่น  all  day  yesterday  etc.
3.     ใช้กับเหตุการณ์  2  อย่างที่กำลังทำในเวลาเดียวกัน(ใช้เฉพาะกริยาที่ทำได้นานเท่านั้น  หากเป็นกริยาที่ทำนานไม่ได้ก็ใช้หลักข้อ 1 ) ถ้าแต่งด้วย 2.1  กับ  2.2  จะดูจืดชืดเช่น   He  was  cleaning  the  house  while  I was  cooking  breakfast.

         [2.3]   Past  perfect  tense    เช่น  He  had walk.  เขาได้เดินแล้ว.
1.    ใช้กับ เหตุการณ์  2  อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต  มีหลักการใช้ดังนี้.
เกิดก่อนใช้  2.3  เกิดทีหลังใช้  2.1.
2.     ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำอันเดียวก็ได้ในอดีต แต่ต้องระบุชั่วโมงและวันให้แน่ชัดไว้ในทุกประโยคด้วยทุกครั้ง  เช่น   She  had  breakfast  at  eight o’ clock  yesterday.

        [2.4]   past  perfect  continuous  tense    เช่น   He  had  been  walking.
           มีหลักการใช้เหมือนกับ  2.3  ทุกกรณี  เพียงแต่  tense  นี้  ต้องการย้ำถึงความต่อเนื่องของการกระทำที่ 1  ว่าได้กระทำต่อเนื่องไปจนถึงการกระทำที่  2  โดยมิได้หยุด  เช่น  When  we  arrive  at  the  meeting ,  the  lecturer  had  been  speaking  for  an  hour  .   เมื่อพวกเราไปถึงที่ ประชุม  ผู้บรรยายได้พูดมาแล้ว เป็นเวลา 1  ชั่วโมง.



  [3.1]   Future  simple  tense      เช่น   He  will  walk.    เขาจะเดิน.
              ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ซึ่งจะมีคำว่า  tomorrow,  to  night,  next  week,  next  month   เป็นต้น  มาร่วมอยู่ด้วย.
           * Shall   ใช้กับ     I    we.
             Will    ใช้กับบุรุษที่  2  และนามทั่วๆไป.
             Will,  shall  จะใช้สลับกันในกรณีที่จะให้คำมั่นสัญญา, ข่มขู่บังคับ, ตกลงใจแน่วแน่.
             Will,  shall   ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือจงใจก็ได้.
             Be  going  to  (จะ)  ใช้กับความจงใจของมนุษย์ เท่านั้น  ห้ามใช้กับเหตุการณ์ของธรรมชาติและนิยมใช้ใน ประโยคเงื่อนไข.

       [3.2]    Future   continuous    tense    เช่น   He  will  be  walking.    เขากำลังจะ เดิน.
1.     ใช้ในการบอกกล่าวว่าในอนาคตนั้นกำลังทำอะไรอยู่ (ต้องกำหนดเวลาแน่นอน ด้วยเสมอ).
2.     ใช้กับเหตุการณ์  2  อย่างที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอนาคต  มีกลักการใช้ดังนี้.
               -   เกิดก่อนใช้    3.2      S  +  will  be,  shall  be  +  Verb 1  ing.
                -  เกิดทีหลังใช้   1.1     S  +  Verb  1 .


        [3.3]   Future   prefect  tens    เช่น  He  will  walked.  เขาจะได้เดินแล้ว.
1.  ใช้กับเหตุการณ์ที่จะ เกิดขึ้นหรือสำเร็จลงในเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต  โดยจะมีคำว่า  by  นำหน้ากลุ่มคำที่บอกเวลา ด้วย  เช่น   by  tomorrow  ,   by  next  week   เป็น ต้น.
2.  ใช้กับเหตุการณ์  2  อย่างที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอนาคต มีหลักดังนี้.
              -      เกิดก่อนใช้   3.3      S  +  will, shall  +  have  +  Verb 3.
             -       เกิด ที่หลังใช้   1.1    S  +  Verb 1 .

        [3.4]  Future  prefect  continuous  tense เช่น He  will  have  been  walking. เขาจะได้กำลัง เดินแล้ว.           ใช้เหมือน  3.3  ต่างกันเพียงแต่ว่า  3.4  นี้เน้นถึงการกระทำที่  1  ได้ทำต่อเนื่องมาจนถึงการกระทำที่  2  และจะกระทำต่อไปในอนาคต อีกด้วย.
           *   Tense  นี้ไม่ค่อยนิยมใช้บ่อย นัก  โดยเฉพาะกริยาที่ทำนาน ไม่ได้ อย่านำมาแต่งใน  Tense  นี้เด็ดขาด.
จบเรื่อง  Tense
ที่มา http://marujo2524.igetweb.com/articles/570356/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-Tense-%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87-12.html
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ที่นี่อธิบายแยกแต่ละ tense มีแบบฝึกเล็กๆด้วย
http://www.englishtenses.com/tenses/present_simple#use3

http://esl.fis.edu/grammar/rules/pressimp.htm

http://www.myenglishpages.com/site_php_files/grammar-lesson-simple-present.php#.U6W8QtzoSrw
----------------------------------------------------------------------------------------------------------

Tenses and actions



TenseExampleExplanation
 Present simpleplay football every week.Here you want to say that it happens regularly.
Present continuousI'm playing football now.Here you want to say that it is happening at the moment.
 Past simpleplayed football yesterday.You did it yesterday, it happened in the past., the action is finished.
Past continuouswas playing football the whole evening.You were doing it in the past. It's not sure whether the action was finished or not.
Present PerfectI have just played football.You have just finished it. So it has a connection to the present. Maybe your clothes are dirty.
Present Perfect Continuoushave been playing football for 2 hours.You want to say how long you have been doing it. (You started in the past and it continues up to the present.
Past Perfecthad played football when Susan came.The two actions are related to each other: you had finished to play football and after that the girl arrived.
Past Perfect Continuoushad been playing football when Susan came.Here you want to point out how long you had been doing it before the girl came.
will futurewill play football next week.This is a prediction, you can probably do something else.
going to futureI'm going to play football this afternoon.This is a plan you've made.
Future Continuouswill be playing football next Sunday.You do it every Sunday (as usual)
Future Perfectwill have played football by tomorrow.You will have done it before tomorrow.
Conditional
Simple
would play football.You'll probably do it.
Conditional
Continuous
would be playing football.You'll probably do it. Here you concentrate more on the progress of the action.
Conditional
Perfect
would have played football.You'll probably have finished playing football at a special time in the future. Here you concentrate on the fact (football).
Conditional
Perfect
Continuous
would have been playing football.You'll probably have finished playing football at a special time in the future. Here you concentrate on the progress of playing (football).

ที่มา http://www.tolearnenglish.com/exercises/exercise-english-2/exercise-english-4052.php

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

English Tenses – Examples

ExplanationPastPresentFuture
Simple PastSimple PresentFuture I Simple
a moment in timeaction that takes place once, never or several timesHe played football every Tuesday.He plays football every Tuesday.He will / is going to play football every Tuesday.
actions that happen one after anotherHe played football and then he went home.He plays football and then he goes home.He will play football and then he will go home.
stateHe loved football.He loves football.He will love football.
Past ProgressivePresent ProgressiveFuture I Progressive
a period of timeaction going on at that momentHe was playing football.He is playing football.He will be playing football.
actions taking place at the same timeHe was playing football and she was watching.He is playing football and she is watching.He will be playing football and she will be watching.
Past Perfect SimplePresent Perfect SimpleFuture II Simple
resultaction taking place before a certain moment in time; emphasises the resultHe had won five matches until that day.He has won five matches so far.He will have won five matches by then.
Past Perfect ProgressivePresent Perfect ProgressiveFuture II Progressive
Course / Durationaction taking place before a certain moment in time (and beyond), emphasises the durationHe had been playing football for ten years.He has been playing football for ten years.He will have been playing football for ten years.

The Tenses in English Grammar - Reference

One sentence is put into different tenses. You can see how the meaning changes.
The words in green are signal words. They tell you which tense you have to use.
TenseExampleExplanation
Simple Presentplay football every week.Here you want to say that it happens regularly.
Present ProgressiveI'm playing football now.Here you want to say that it is happening at the moment.
Simple Pastplayed footballyesterday.You did it yesterday, it happened in the past.
Past Progressivewas playing football the whole evening.You were doing it in the past. It's not sure whether the action was finished or not.
Present Perfecthave just playedfootball.You have just finished it. So it has a connection to the present. Maybe your clothes are dirty.
Present Perfect Progressivehave been playingfootball for 2 hours.You want to say how long you have been doing it. (You started in the past and it continues up to the present.
Past Perfecthad played football before Susan came.The two actions are related to each other: you had finished to play football and after that the girl arrived.
Past Perfect Progressivehad been playing football for two hours when Susan came.Here you want to point out how long you had been doing it before the girl came.
will-futurewill play football next week.This is a prediction, you can probably do something else.
going to-futureI'm going to play football this afternoon.This is a plan you've made.
Future Progressivewill be playing football next Sunday.You do it every Sunday (as usual)
Future Perfectwill have played football by tomorrow.You will have done it before tomorrow.
Conditional
Simple
would play football.You'll probably do it.
Conditional
Progressive
would be playingfootball.You'll probably do it. Here you concentrate more on the progress of the action.
Conditional
Perfect
would have playedfootball.You'll probably have finished playing football at a special time in the future. Here you concentrate on the fact (football).
Conditional
Perfect
Progressive
would have been playing football.You'll probably have finished playing football at a special time in the future. Here you concentrate on the progress of playing (football).

Negations of the sentences

TenseExample
Simple Presentdo not play football every week.
don't play football every week.
Present ProgressiveI am not playing football now.
I'm not playing football now.
Simple Pastdid not play football yesterday.
didn't play football yesterday.
Past Progressivewas not playing football yesterday.
wasn't playing football yesterday.
Present Perfecthave not played football.
haven't played football.
I've not played football.
Present Perfect Progressivehave not been playing football.
haven't been playing football.
I've not been playing football.
Past Perfecthad not played football.
hadn't played football.
I'd not played football.
Past Perfect Progressivehad not been playing football.
hadn't been playing football.
I'd not been playing football.
will-futurewill/shall not play football next week.
won't play football next week.
going to-futureI am not going to play football this afternoon.
I'm not going to play football this afternoon.
Future Progressivewill/shall not be playing football.
won't be playing football.
Future Perfectwill/shall not have played football.
won't have played football.
Conditional Simplewould not play football.
I'd not play football.
Conditional Progressivewould not be playing football.
wouldn't be playing football.
I'd not be playing football.
Conditional Perfectwould not have played football.
wouldn't have played football.
I'd not have played football.
Conditional Perfect Progressivewould not have been playing football.
wouldn't have been playing football.
I'd not have been playing football.

Questions

TenseExample
Simple PresentDo you play football?
Present ProgressiveAre you playing football?
Simple PastDid you play football?
Past ProgressiveWere you playing football?
Present PerfectHave you played football?
Present Perfect ProgressiveHave you been playing football?
Past PerfectHad you played football?
Past Perfect ProgressiveHad you been playing football?
will-futureWill you play football?
going to-futureAre you going to play football?
Future ProgressiveWill you be playing football?
Future PerfectWill you have played football?
Conditional SimpleWould you play football?
Conditional ProgressiveWould you be playing football?
Conditional PerfectWould you have played football?
Conditional Perfect ProgressiveWould you have been playing football?
ที่มา:http://www.englisch-hilfen.de/en/grammar/tenses_satz.htm

http://pantip.com/topic/31118551

---
some test for FRee. lol
https://www.ego4u.com/en/cram-up/tests/language-course

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น