วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2556

LTF ขายได้เมื่อไหร่ นับวันถอนอย่างไร






ยกตัวอย่าง

ซื้อ LTF เมื่อ 2 กุมพาพันธ์ 2553 ---> จะขายได้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2557 ค่ะ



ส่วนการขายนั้นเราอาจะรอดูช่วงเวลาที่ตลาดขึ้นแล้วค่อยทิ้งก็ได้ค่ะ   
ทั้งนี้ "กำไร"ที่ได้จากการขายก็ได้รับยกเว้น "ภาษี" ค่ะ


                 สามารถไปขายที่ธนาคารโดยตรง หรือบางธนาคารให้ขายผ่านทาง Easy net ได้ค่ะ
และขายเฉพาะรายการที่ครบกำหนดข้างต้นเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะผิดหลักเกณฑ์การลดหย่อยภาษี คราวนี้โดนเรียกภาษีคืน แย่แน่ค่ะ


---ขายผิดเงื่อนไข ทำไงดี---


ตัวอย่าง -- ขาย LTF ที่เพิ่งซื้อในปีนี้

หากผู้ลงทุนได้ซื้อ LTF ในปีนี้เป็นปีแรก เมื่อขาย LTF ออกไปในปีเดียวกับปีที่ซื้อ 
และไม่เคยมีการซื้อมาก่อนหน้านี้ 
สิ่งที่ได้รับจากการขายคือ กำไรหรือขาดทุนจากการขาย
 หากได้รับกำไร ผู้ลงทุนต้องนำกำไรที่ได้รับมารวมคำนวณเป็นเงินได้ในปีที่ขายด้วย ทั้งนี้ จะมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย จำนวน 3% ของกำไร นำส่งให้กับกรมสรรพากร 

----เช่น ซื้อ LTF 100,000 บาท เดือน เมษายน 2555 ขายคืน ธันวาคม 2555  ได้รับเงินมา 120,000
หักภาษี ณที่จ่าย 20,000 x 3% --> เหลือ 119,400
กำไรที่ได้ 20,000 ต้องเอาไปรวมคิดเงินได้ปลายปีด้วย


 ทั้งนี้ หากเป็นการซื้อกองทุนเปิดทั่วไป เงินได้จากการขายคืนจะไม่ถูกนำมารวมคำนวณเป็นรายได้ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนคือ กำไรจากการขายจำนวน 20,000 บาท ไปเต็มจำนวน


ตัวอย่าง 
 ขายคืน LTF ที่ได้ใช้สิทธิทางภาษีไปแล้ว

 ถ้าหากเคยซื้อ LTF มาแล้วในปีก่อนหน้า เช่นปี 2554
และในปี 2555 ได้ทำการขายคืน จะถือว่าผิดเงื่อนไขการลงทุนทันที 

เพราะ LTF มีเงื่อนไขว่าเมื่อลงทุนแล้วจะต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5ปีปฏิทิน
--เช่นซื้อ LTF จำนวน 100,000 บาทในปี 2554 เมื่อเดือนมีนาคมปี 2555 ได้นำไปลดหย่อนภาษีได้รับเงินภาษีคืนจำนวน 30,000 บาท (ฐานภาษี 30%)
เดือนตุลาคม ปี 2555 ตลาดหุ้นปรับตัวสูงกว่า 1,300 จุด 

จึงได้ตัดสินใจขายหน่วยลงทุนที่ได้ลงทุนเมื่อปีที่ผ่านมาไป ได้เงินมาทั้งสิ้น120,000 บาท เมื่อได้รับเงินจริงจะเท่ากับ 119,400 บาท
 เนื่องจากนายทะเบียนได้หักภาษี ณ ที่จ่ายจำนวน 600 บาท (20,000 x 3%) 

สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อได้ขายคืน LTF ผิดเงื่อนไข มีดังต่อไปนี้ค่ะ 

รีบคืนภาษีที่ได้รับเมื่อต้นปี 2555 ทั้งนี้ กรมสรรพากรจะให้กรอกแบบภงด. ใหม่ 
เพื่อคำนวณภาษีที่ควรเสียหากไม่ได้ลงทุนในกองทุน LTF เพื่อลดหย่อนภาษี


---จากตัวอย่าง หากไม่ลงทุนในLTF แล้วจะต้องเสียภาษีอีกจำนวน 30,000 บาท 
(สมมติฐานภาษี 30%) ดังนั้น เงินจำนวนดังกล่าวต้องคืน  
และเสียเงินเพิ่มอีกจำนวนร้อยละ 1.5 ต่อเดือนนับจากวันที่ 1 เมษายน 2555 
ถึงเดือนที่ยื่นคืนกรมสรรพากร 

ดังนั้นหากขายคืนเดือนตุลาคม 
2555 ให้รีบยื่นภาษีใหม่ทันที
เท่ากับต้องเสียเงินเพิ่มอีกจำนวน 
3,150 บาท ( 30,000 x 1.5% x 7 เดือน) (เมษายน  ตุลาคม) 

 และกำไรที่ได้รับจากการขายคืนจำนวน 20,000 บาท ให้นำมารวมเป็นเงินได้ในปี 2555 เพื่อคำนวณภาษีเช่นเดียวกับตัวอย่างแรก

ตัวอย่างที่  ขายคืน LTF ของปีที่ลงทุนล่าสุด โดยเคยลงทุนและใช้สิทธิภาษีมาแล้ว

ตัวอย่าง  
ซื้อปี 2553 ปี 2554 และปี 2555 และได้มีการขายคืนเฉพาะที่ได้ซื้อในปี 2555
หากซื้อปีละ 100,000 บาท และได้รับภาษีคืนปีละ 30,000 บาท สำหรับการลงทุนในปี 2553 และ2554 ส่วนปี 2555 ยังไม่ได้ยื่นเพื่อลดหย่อนภาษีและได้มีการขายคืนไปก่อน จะถือว่าผิดเงื่อนไขการลงทุน (สมมติว่าขายได้เงินจำนวน 120,000 บาท) 
เพราะ LTF มีเงื่อนไข FIFO (First In First Out)

ซึ่งหมายถึง เมื่อมีการขายคืน LTF จะเป็นลักษณะของการขายคืนก้อนแรกก่อนเสมอ 


ซึ่งจะถือว่าเป็นการขายของปี 2553 ซึ่งยังไม่ครบ 5 ปีปฏิทิน จึงผิดเงื่อนไขการลงทุน

ต้องคืนสิทธิทางภาษีที่ได้รับดังตัวอย่างที่ 2 แต่ทั้งนี้

ในส่วนของเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 จะถูกคำนวณตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ปี2554

ดังนั้นหากขายคืนเดือนตุลาคม 2555 ให้รีบยื่นภาษีใหม่ทันที


ต้องเสียเงินเพิ่มอีกจำนวน 8,550 บาท ( 30,000 x 1.5% x 19 เดือน) (เมษา ปี54 – ตุลาปี55)

และกำไรที่ได้รับจากการขายคืนจำนวน 20,000 บาท
ให้นำมารวมเป็นเงินได้ในปี 2555 เพื่อคำนวณภาษีเช่นเดียวกับตัวอย่างแรก



ข้อมูลจากเรื่องขายผิดเงื่อนไข --อรพรรณ บัวประชุม, CFP
ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาทางการเงินส่วน ธนาคารกสิกรไทย

http://k-expert.askkbank.com/Article/Pages/A3_005.aspx


ทั้งนี้"กำไร"ที่ขาย LTF ในปีที่ครบเกณฑ์ตามเงื่อนไขนั้น

จะต้องเอาไปกรอกในในภาษีด้วย


หลายคนอาจจะสงสัยว่าไหนว่ายกเว้นแล้วทำไมต้องกรอก

ใน ภงด 90 จะมีช่องกรอกกำไรเฉพาะสำหรับ LTF


ทั้งนี้การกรอกในส่วนนี้ เนื่องจากยกเว้นภาษี จึงไม่ต้องนำมาคิด

แต่สามารถขยายฐานของคนที่ต้องการซื้อ LTF เพิ่มขึ้นได้อีก 15 %



ชอบที่ผู้เขียนเขียนว่า

"ถ้ามีคนมาถามว่า LTF ขายแล้วไปไหน

--ก็ให้ตอบว่าขายแล้วก็ไปลดหย่อยภาษีได้อีกนะตัวเทอว์'

ที่มา -- http://tax.bugnoms.com/tax/ltf-never-die/


      





9 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณค่ะ
    งงนิดหน่อย แต่ ยังไม่ถึง 5 ปี ก็ยังไม่ขายล่ะกัน ^__^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ซื้อเมื่อไหร่คะ จะได้ช่วยนับวัน

      ลบ
  2. สวัสดีครับ ผมรบกวนสอบถามนิดนึง ถ้าผมซื้อกองทุนในเดือนธันวาคม 2555 จำนวน100,000 แล้วใช้ลดหย่อนของปีนั้นไปแล้ว แต่ปีต่อๆมาผมไม่ได้ซื้อต่อเลย ถ้าปีนี้2558 ผมอยากจะขายหรือถอนเอาเงินออกมาใช้ นั้นจะทำได้ไหมครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คุณจะสามารถขายคืนได้ครบกำหนดคือวันที่ 1 มกราคม 2559

      แต่ถ้าหากคุณขายตอนนี้ คุณจะถูกคำนวณภาษีใหม่ โดยไม่ได้หักในส่วนที่ขอลดหย่อนไป และเสียเงินเพิ่มอีกจำนวนร้อยละ 1.5 ต่อเดือนนับจากวันที่ 1 เมษายน 2556 ...

      คิดยังไงก็ไม่คุ้มนะคะ

      ลบ
    2. รออีกแปบเดียวเองไม่กี่เดือน ขอบคุณนะครับผม

      ลบ
  3. ขอสอบถามว่า เมื่อ ltf ครบกำหนดขายคืนได้แล้ว จะสามารถทยอยขายคืนหลาย ๆ ครั้ง ในปีนั้น
    ได้หรือไม่ หรือต้องขายก้อนเดียวเลย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จะขายครั้งเดียวหรือกี่ครั้งก็ได้ค่ะ ถ้าครบแล้ว
      จะขายในปีทีครบ หรือเห็นว่ายังทำกำไรได้ จะถือต่ออีกกี่ปีก็ได้ค่ะ

      ลบ
    2. ขอบคุณที่ตอบนะคะ

      ลบ
  4. ขอบคุณทุกคำถาม และคำตอบเลยครับ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ